Pick Me Boy ผู้ชายที่เข้ามาทำทรงและ ‘แสร้ง’ ว่าตัวเองซัพพอร์ตสิทธิผู้หญิง เข้าอกเข้าใจเรื่องยากๆ แต่จริงๆ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น! 

Pick Me Boy​ “ผมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น” การแสร้งเข้าใจผู้หญิงเพื่อหวังเข้าหา ซึ่งนับว่าเป็น Emotional Manipulate และท็อกซิกไม่ต่างกัน

สำหรับคำเรียกผู้หญิงที่แสดงตัวออกมาว่า “ฉันไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น” อย่าง ‘Pick Me Girl’ เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว เวลาที่ผู้หญิงซึ่งมีคาแรกเตอร์แมนๆ ห้าวๆ สนิทกับเพื่อนผู้ชาย ไม่ชอบแต่งหน้า เข้าอกเข้าใจผู้ชาย หรืออะไรก็ตามที่บางคนมองกันอย่างแคบๆ ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เขาไม่ทำกัน และไม่มีใครเหมือน (เพื่อให้เป็นผู้ที่ถูกเลือก) ซึ่งไม่ได้ผิด หากไม่ได้เอาไปพูดกดคนอื่นเพื่อยกยอตัวเองว่าดีเลิศไปกว่าใคร และความรู้สึกอยากถูกเลือก หรืออยากพิเศษกว่าใคร ไม่ได้จำกัดเพศว่าจะมีแต่ผู้หญิง เพราะผู้ชายก็มีเหมือนกัน วันนี้เราชวนรู้จักคำว่า ‘Pick Me Boy’ ที่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูมาก แต่จุดประสงค์ของผู้ชายที่เป็นหนุ่ม Pick Me นั้นไม่ได้ต่างอะไรจากสาว Pick Me&nbsp;พวกเขาล้วนแต่อยากได้รับการยอมรับและอยากแรร์เหมือนกัน เพียงแต่วิธีการแสดงออกว่า “ผมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น” นั้นต่างจากเวอร์ชันผู้หญิง ตรงที่ Pick Me Boy จะเข้ามาทำทรงและ ‘แสร้ง’ ว่าตัวเองซัพพอร์ตสิทธิผู้หญิง เข้าอกเข้าใจเรื่องยากๆ ของผู้หญิง ไม่ว่าจะเรื่องความไม่เท่าเทียมในที่ทำงาน ความไม่เท่าเทียมในความสัมพันธ์ ปัญหาการถูกคุกคามทางเพศ การเหยียดเพศ หรือแม้แต่สิทธิเนื้อตัวร่างกายของผู้หญิง ฯลฯ เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกว่าในที่สุดฉันก็เจอผู้ชายแรร์ๆ หายาก แจก Green Flag รัวๆ และอยากเดตด้วย แต่จริงๆ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น! ลับหลังเขาอาจจะเป็นผู้ชายเหยียดเพศคนหนึ่ง หรือดูถูกผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คุณก็ได้นี่คือการเข้าหาเพื่อหวังผลประโยชน์แบบชัดเจน ที่สำคัญเขาจะพยายามพูดกดตัวเองให้ผู้หญิงได้ยินว่าจริงๆ เขาไม่ได้ดีเด่อะไร หรือใช้คำพูดให้ผู้หญิงรู้สึกเห็นใจ เช่น “ผู้หญิงแบบคุณคงไม่ชอบผมหรอก เพราะผมไม่เหมือนผู้ชายคนอื่น” / “ผมไม่รู้ว่าดีพอ จะเดตกับคุณหรือเปล่า” / “ผู้ชายคนอื่นเขาไม่ค่อยชอบผมหรอกครับ เพราะผมเป็นแบบนี้ ฯลฯ และแน่นอนว่าผู้หญิงที่ได้ฟังแบบนั้น หลายคนก็อาจจะรีบพูดสวนขึ้นมาว่า “คุณดีจะตาย ฉันไม่ค่อยเจอผู้ชายแบบคุณเลย” ซึ่งเป็นสิ่งที่ Pick Me Boy อยากได้ยิน หรืออยากได้รับการคอนเฟิร์มแบบนี้ เพื่อนำไปสู่การเดตต่อไป การด้อยค่าตัวนี้ ทำเพื่อให้ผู้หญิงเห็นใจและปลอบใจ ซึ่งนี่เป็นการโน้มน้าวผู้หญิงให้รู้สึกอยากคุยกับเขาต่อวิธีหนึ่ง รู้ตัวอีกทีบางคนก็ไปเดตกับเขาเรียบร้อย เพราะบางคนอาจรู้สึกว่า ‘ต้องไป’ เพื่อให้เขาไม่รู้สึกแย่กับตัวเอง ซึ่งสิ่งนั้นอาจพัฒนาเป็นความชอบได้ เพราะผู้หญิงอาจลองเปิดใจจากคุณสมบัติต่างๆ ที่เขาโชว์ออกมาว่าเข้าใจผู้หญิงเหลือเกิน&nbsp;ต้องยอมรับว่าในโลกที่ผู้หญิงหลายคนมีประสบการณ์ไม่ดีกับผู้ชายหลายคน ไม่ว่าจะการถูกนอกใจ การถูกกดขี่ในความสัมพันธ์หรือในสังคม การเหยียดเพศ หรือการเผชิญความรุนแรงทางกาย ทางใจ และทางเพศ ฯลฯ ทำให้ผู้หญิงหลายคนคิดว่าผู้ชายดีๆ หายากเหลือเกิน ซึ่งจริงๆ แน่นอนว่ามี แต่แค่อาจจะยังไม่เจอเขาคนนั้นเฉยๆ หากแต่ Pick Me Boy จะใช้จุดอ่อนเรื่องความต้องการของผู้หญิงตรงนี้เข้าหาพวกเธอ แม้ว่าความจริงแล้ว เขาแค่พยายามจะเป็นแบบนั้นเพื่อให้ถูกเลือกในความสัมพันธ์เฉยๆ&nbsp;และตรงนี้นี่เองที่ทำให้ผู้ชายหลายคนที่เข้าใจและพร้อมจะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศจริงๆ พลอยถูกเหมารวมและโดนหมั่นไส้ไปด้วย จนบางคนก็อาจจะพานไม่อยากพูดเรื่องเหล่านี้ให้ถูกเข้าใจผิด และกลายเป็นว่าเรื่องความเท่าเทียมได้ถูกดันให้ไกลตัวผู้คนมากขึ้นไปอีก ซึ่งนับว่าน่าเสียดายจริงๆ&nbsp;ที่สำคัญ Pick Me Boy ที่เมื่อถูกเลือกไปแล้วและสุดท้ายก็ออกลาย ก็ได้กลายเป็นการย้ำแผลของผู้หญิงที่ต้องเจอกับความท็อกซิกแบบเดิมๆ จนบางคนอาจเผลอเหมารวมว่าผู้ชายนั้นเลวร้ายไปทุกคนอีกต่างหาก&nbsp;หลายครั้งเขาจะด้อยค่าตัวเอง โดยบอกว่าที่ผู้หญิงไม่ชอบเขาเพราะเขาเซนซิทีฟเกินไป ดูไม่มีความเป็นชายเสียเท่าไร หรือการเข้าอกเข้าใจผู้หญิงนี้ก็ทำให้ผู้ชายมองเขาว่าไม่แมน และทำให้ผู้ชายหลายคนพาลไม่ชอบเขาไปด้วย เพื่อให้ผู้หญิงเห็นใจและปลอบใจเขา ซึ่งนี่เป็นการโน้มน้าวผู้หญิงให้รู้สึกอยากคุยกับเขาต่อวิธีหนึ่ง เช่น เขาบอกว่าเขาไม่มีอะไรดี ฝ่ายหญิงก็อาจตอบว่าเขาน่ารัก เขาบอกว่าผู้หญิงชอบแต่ผู้ชายแบดๆ ฝ่ายหญิงก็อาจตอบว่าไม่จริงสักหน่อย เขาบอกว่าคุณคงไม่ไปเดตกับเขา ฝ่ายหญิงก็ถึงเวลาจนมุม รู้ตัวอีกทีก็ไปเดตกับเขาเรียบร้อย เพราะแม้เริ่มต้นจะรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบก็ตาม แต่ฝ่ายหญิงบางคนอาจรู้สึกว่า ‘ต้องไป’ เพื่อให้เขาไม่รู้สึกแย่กับตัวเอง ซึ่งสิ่งนั้นอาจพัฒนาเป็นความชอบได้ เพราะผู้หญิงอาจลองเปิดใจจากคุณสมบัติต่างๆ ที่เขาโชว์ออกมาว่าเข้าใจผู้หญิงเหลือเกิน แต่ในความเป็นจริง เขาอาจจะไม่ใช่ในแบบที่พูด และเขาอาจจะไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชายลักษณะที่ผู้หญิงไม่ชอบก็ได้เหมือนกันวิธีการของเหล่าชาว Pick Me ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Emotional Manipulation หรือการชักจูงเชิงจิตวิทยา ที่หลายคนต้องระวังกันไว้มากขึ้น โดย Elaine Parker ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ กล่าวว่า “หลายๆ คนจะพยายามเปลี่ยนบุคลิกภาพของตัวเองเพื่อตอบสนองความปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับ” และ “เหล่า Pick Me มักจะใช้ Emotional Manipulation และ Guilt-Tripping (ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขาพูดจนรู้สึกผิด) เพื่อให้ได้ดั่งใจและควบคุมสถานการณ์ได้”“บางคนใช้การกดตัวเองเพื่อให้ดูถ่อมตัวและดูติดดินมากขึ้น แต่นี่สามารถเป็นรูปแบบหนึ่งของ Emotional Manipulation ได้” Parker กล่าวทีนี้ผู้หญิงหลายคนก็อาจจะเริ่มคิดแล้วว่า อ้าว แล้วแบบนี้ฉันจะรู้ได้ไงว่าผู้ชายคนไหนจงใจเข้ามาหลอก หรือเขาเป็นคนดีที่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ จะเชื่อใจใครได้บ้างล่ะทีนี้ อันนี้คงเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะคอยตรวจเช็กและประเมินความรู้สึกของตัวเองบ่อยๆ ว่าเขาเป็นยังไงและตอนนี้เรารู้สึกอย่างไรกับเขา แน่นอนว่าในช่วงที่เขาพยายามจีบคุณอย่างหนัก เขาจะพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ชายแบบที่คุณตามหาทุกอย่าง อาจจะพูดในสิ่งที่คุณไม่เคยได้ยินจากผู้ชายคนอื่น คอยดูแล เอาใจใส่ความรู้สึกอย่างดี จนทำให้คุณไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าวันไหนที่เขาเริ่มใช้ ‘ความไม่เหมือนคนอื่น’ ของเขา เพื่อมาทำให้คุณต้องรู้สึกแย่กับตัวเอง นั่นอาจเป็นจุดที่ตะหงิดใจได้แล้ว เช่น ถ้าเขาขอมีเซ็กซ์ด้วย แต่คุณปฏิเสธเขา เขาอาจจะพูดกลับว่า “เป็นเพราะเขาไม่น่าดึงดูดใจ เหมือนคนอื่นๆ ใช่ไหม” หรือถ้าเขาขอไปเดตด้วย แต่คุณปฏิเสธ จนเขาโทษตัวเองว่า “เป็นเพราะเขาไม่ดีพอ” ก็อยากให้คุณยึดมั่นในตัวเองไว้ว่า ถ้าคุณไม่ชอบ ก็ไม่จำเป็นต้องคล้อยตามเขา และแม้จะคบกันไปแล้ว หรือยังไม่คบกัน ตัวตนที่เขา ‘สร้าง’ ขึ้นมา ก็ไม่มีทางจะอยู่ไปได้นานตลอดไป&nbsp;บางคนเผยธาตุแท้ออกมา ระหว่างคบกัน เขาที่เคยเข้าอกเข้าใจผู้หญิง อาจจะเป็นคนที่จำกัดการแต่งตัวของคุณ วิจารณ์รูปร่างของคุณ บางคนเผยธาตุแท้ออกมาตอนถูกปฏิเสธ หันมาด่าทอคุณ และโทษคุณอย่างหนักที่ไม่เลือกเขา หรือบางคนเมื่อไม่ถูกเลือก หรือถูกเทในความสัมพันธ์ ก็กลายเป็นคนที่มีคุณสมบัติแบบที่เขาบอกตอนแรกๆ ว่าเขาไม่ชอบ นั่นแหละ Pick Me Boy เพราะเขาไม่ได้เป็นผู้ชายแบบที่คุณชอบตั้งแต่แรก เขาแค่ ‘แกล้ง’ เป็นผู้ชายแบบที่คุณชอบเท่านั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่จะจับโป๊ะ Pick Me Boy ได้ การศึกษาดูใจกันไปเรื่อยๆ จะตอบคุณเองว่าเขาเป็นคนที่ดีต่อใจจริงๆ หรือทั้งหมดนั้นมันไม่มีอะไรจริงสักอย่าง เพราะเขาไม่มีทางเป็นในแบบที่เขาไม่ได้เป็นไปได้ตลอดแน่นอน และเมื่อคุณรู้สึกว่านับวันคำพูดกับการกระทำของเขามันเริ่มสวนทาง และบั่นทอนจิตใจจนคุณรู้สึกท็อกซิก การถอยออกมาจากความสัมพันธ์จะทำให้คุณได้เซฟใจตัวเองอาจจะดีกว่า เพราะเราเชื่อว่ายังมีคนดีๆ อีกมากรอคุณอยู่ในอนาคตอ้างอิง:<a href="https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a40896014/pick-me-boy-meaning-traits/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a40896014/pick-me-boy-meaning-traits/</a>&nbsp;<a href="https://www.refinery29.com/en-gb/pick-me-boys-toxic-irl" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.refinery29.com/en-gb/pick-me-boys-toxic-irl </a><a href="https://www.bolde.com/what-is-a-pick-me-boy/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bolde.com/what-is-a-pick-me-boy/ </a>

เป็นเรื่องน่าสนใจที่ว่าทำไมการที่ผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นมาหั่นผมสั้นหรือโกนผมตัวเองทิ้ง มักซ่อนความหมายในเชิงจิตวิทยาซึ่งเชื่อมโยงกับสภาวะทางจิตใจเอาไว้เสมอ

สิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน เมื่อผู้หญิงโกนหัวหรือหั่นผม สัญลักษณ์ของการ ‘หลุดพ้น’ หรือ ‘เริ่มต้นใหม่’ จนถึงการพยายามดีลกับอะไรบางอย่างที่เรา Control อะไรแทบไม่ได้เลย

นับตั้งแต่เปิดตัวในฐานะภรรยาของคานเย เรายังไม่ค่อยได้เห็นภาพของเบียนกาที่มีใบหน้ายิ้มแย้มเท่าไรนัก ในบางคลิปวิดีโอเธอดูเหมือนคนที่กำลังอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ภาษากายที่สื่อออกมาดูคล้ายไม่ได้แฮปปี้กับสิ่งที่ต้องทำ และเราก็แทบไม่เคยได้ยินเสียงของเธอเลยด้วยซ้ำ

อีกด้านของการคบกับ “คนมีอำนาจ” จากเรื่องราวของ Bianca Censori ที่ต้องถูกจดจำในฐานะ “เมียใหม่ที่โดน Kanye West จับแต่งตัวโป๊”

Rebecca Syndrome พฤติกรรมแอบส่องมนุษย์แฟนเก่า รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์เก่าๆ ของคนรักในปัจจุบัน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Relationship

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS