ลินดา ซาร์เซอร์ เติบโตในครอบครัวผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ในสหรัฐฯ และเริ่มเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิชาวมุสลิมในอเมริกาหลังเกิดเหตุการณ์ 9/11 ที่คนมุสลิมถูกแปะป้ายด้วยความเกลียดชัง จากนั้นเธอก็เข้าสู่เส้นทางการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้แก่คนมุสลิม ผู้หญิง และคนผิวดำ

Linda Sarsour นักเคลื่อนไหวเชื้อสายปาเลสไตน์ ที่เชื่อว่าเฟมินิสม์คือการยืนหยัดเพื่อผู้หญิงทุกคน โดยไม่มีกำแพงเรื่องชาติ ศาสนา

"มันไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ นะ เวลามีคนที่ออกตัวว่าเป็นเฟมินิสต์มาถามว่า 'ยังเหลือพื้นที่ให้คนที่สนับสนุนอิสราเอลและเป็นกลางอยู่ไหม' ไม่ได้หรอก นั่นไม่ใช่เฟมินิสต์ คุณต้องยืนหยัดเพื่อผู้หญิงทุกคนสิ ซึ่งนั่นก็รวมถึงคนปาเลสไตน์ด้วย"ลินดา ซาร์เซอร์ (Linda Sarsour) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวอเมริกันมุสลิม เคยให้สัมภาษณ์ประโยคข้างต้นมาตั้งแต่ปี 2017 อันสะท้อนข้อเท็จจริงชวนเศร้าว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์นั้นกินเวลายาวนานนับตั้งแต่นั้น -และอันที่จริงก็ก่อนหน้านั้นหลายสิบปี- มาจนถึงปัจจุบัน จุดยืนที่ซาร์เซอร์ย้ำอยู่เรื่อยมาคือเธอต้องการสันติภาพ เธอจึงต่อต้านการใช้ความรุนแรงจากอิสราเอลทุกมิติ รวมทั้งแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของกลุ่มฮามาสจากฝั่งปาเลสไตน์อย่างเห็นได้ชัด&nbsp;ตัวซาร์เซอร์เองเติบโตในครอบครัวผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ในสหรัฐฯ และเริ่มเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิของมุสลิมในอเมริกาหลังเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน หรือ 9/11 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนมุสลิมถูกแปะป้ายด้วยความเกลียดชังเป็นจำนวนมาก และนับแต่นั้น ซาร์เซอร์ก็เดินเข้าสู่เส้นทางของการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิให้แก่คนมุสลิม ผู้หญิง รวมทั้งคนผิวดำ&nbsp;ชื่อของซาร์เซอร์เป็นที่พูดถึงหนาหูเมื่อครั้งที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนะการเลือกตั้งในปี 2016 และผ่านกฎหมายห้ามพลเมืองมุสลิมจากหกประเทศ -ได้แก่ &nbsp;ซีเรีย, ลิเบีย, อิหร่าน, เยเมน, โซมาเลีย และซูดาน- เดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการผ่านกฎหมายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเต็มไปด้วยน้ำเสียงและท่าทีของการเลือกปฏิบัติ โดยสมัยนั้น จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยทรัมป์นั่งตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี และก็เป็นอีกขวบปีที่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังคุกรุ่น ตัวคุชเนอร์ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลประเด็นอันอ่อนไหวนี้ ซึ่งสำหรับซาร์เซอร์แล้วนี่เป็นทางออกที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลยของทรัมป์ "จาเร็ด คุชเนอร์ นี่เป็นคนสุดท้ายแล้วละที่ควรพยายายามสร้างสันติให้เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์" เธอบอก "ฉันรู้ดีว่าเรายังกลับไปอยู่ร่วมกันได้อยู่อย่างสันติ แต่ต้องไม่ใช่ด้วยน้ำมือของไอ้ฟาสซิสม์ทรัมป์หรือลูกเขยของเขาแน่ๆ"ในแง่การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรี ซาร์เซอร์ก็แข็งขันเรื่องนี้เรื่อยมา โดยเธอเป็นหนึ่งในแกนนำสำคัญที่จัดตั้ง Day Without a Woman เมื่อปี 2017 โดยที่มาของการเข้าร่วมการประท้วงนั้น ซาร์เซอร์เล่าว่า เธอเห็นโพสต์การรวมตัวเดินขบวนประท้วงของกลุ่มผู้หญิงผิวขาวในเฟซบุ๊ก "พวกเขาเขียนว่า 'เรายืนหยัดเคียงข้างผู้หญิงผิวดำทุกคน' แต่ฉันไม่เห็นพวกเขาพูดถึงผู้หญิงมุสลิมเลย" เธอบอก "ฉันประหลาดใจมากๆ เพราะตอนนั้นเราเพิ่งผ่านการเลือกตั้งที่ทำให้เรามีประธานาธิบดีซึ่งป้ายสีคนมุสลิมมาหมาดๆ ฉันเลยเขียนไปว่า 'นี่ดูเยี่ยมไปเลย คงจะดีนะคะถ้าคุณรวมผู้หญิงมุสลิมเข้าไปด้วย' แล้วจากนั้นแหละที่คอมเมนต์ฉันกลายเป็นไวรัลเฉยเลย""การเป็นนักเคลื่อนไหวชาวมุสลิมอเมริกัน ทำให้ฉันตกเป็นเป้าของกลุ่มขวาจัดในลักษณะที่น่าหวาดหวั่นใจทีเดียว ฉันพยายามกันไม่ให้ลูกๆ รู้เรื่องนี้ แต่วันหนึ่ง ลูกสาวถามฉันว่า 'แม่คะ แม่ว่าแม่จะโดนยิงเข้าสักวันไหม' ฉันตกใจมากเลย แต่ก็ตอบไปว่า 'ไม่หรอก เรื่องแบบนั้นไม่เกิดขึ้นในอเมริกาหรอกจ้ะ' แต่แน่ละที่จริงมันก็เสี่ยงมากทีเดียว"นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวปาเลสไตน์จากสงครามความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายต่อหลายปี และพร้อมกันนั้น เธอก็วิพากษ์วิจารณ์กรอบสังคมที่กดขี่ผู้หญิงในประเทศไว้ว่า ผู้หญิงในปาเลสไตน์ถูกกดทับไว้หลายมิติมาก พวกเธอแทบเข้าไม่ถึงระบบประกันสุขภาพและมีรายได้น้อย ผู้หญิงหลายคนยังต้องครุ่นคิดหาทางออกว่าจะเอาอะไรให้ลูกๆ กิน พวกเธอออกเดินทางไปไหนไม่ค่อยได้นัก เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้หญิงคนอื่นๆ ทั้งโลกอยากทำและพวกเราหลายคนก็โชคดีมากพอจะเดินทางข้ามมายังสหรัฐฯ ได้"ผู้หญิงในปาเลสไตน์คือผู้หญิงที่เรียกร้องให้ผู้หญิงคนอื่นๆ ในโลกยืนหยัดกับพวกเธอ มีผู้หญิงชาวปาเลสไตน์หลายคนถูกห้ามไม่ให้รับทุนการศึกษา และก็เคยมีนักวิชาการทุนฟูลไบรต์ (Fulbright Program -ทุนการศึกษาของอเมริกา) ถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปศึกษาต่อ คนปาเลสไตน์จึงเผชิญหน้ากับการกดทับหลายระดับมากๆ โดยเฉพาะเหล่าผู้หญิง" ซาร์เซอร์ว่า และนี่เองจึงเป็นที่มาของวลีข้างต้น เมื่อเธอยืนกรานว่าเฟมินิสต์คือการเรียกร้องสิทธิให้แก่ผู้หญิงทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่มีกำแพงเรื่องชาติ ศาสนามาขวางกั้น"ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่าเฟมินิสต์ แต่ไม่สนับสนุนให้ผู้หญิงในปาเลสไตน์เข้าถึงระบบสาธารณสุขหรือโอกาสอื่นๆ ที่เรามี เพราะเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมืองด้านอื่นๆ ฉันก็คิดว่าคุณไม่ใช่เฟมินิสต์หรอก""คงเป็นเรื่องที่ทำให้กลุ่มขวาจัดในอิสราเอลประหลาดใจทีเดียวที่เห็นผู้หญิงปาเลสไตน์-อเมริกัน ออกหน้าเป็นผู้นำในขบวนการเรียกร้องความยุติธรรม เพราะพวกเขาน่าจะตระหนักได้ว่า ขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์และความสมัครสมานสามัคคีของชาวปาเลสไตน์นั้นกำลังเติบโตขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ ด้วย"ทั้งนี้ สหประชาชาติ (United Nations) ระบุว่า ผู้หญิงและเด็กในปาเลสไตน์เผชิญหน้ากับความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่มีรากมาจากประเพณีและความเชื่อ ตลอดจนการเลือกปฏิบัติในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในบริเวณฉนวนกาซาซึ่งมีผู้อพยพอยู่อาศัยหนาแน่น ทั้งยังเป็นพื้นที่ซึ่งเสี่ยงจะเกิดความรุนแรงจากความขัดแย้งได้ง่าย โดยการปะทะกันล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ก็ยังผลให้มีหลายครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวหลายครัวเรือนแล้วอ้างอิง<a href="https://palestine.unwomen.org/en/what-we-do/ending-violence-against-women-3" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://palestine.unwomen.org/en/what-we-do/ending-violence-against-women-3</a>&nbsp;<a href="https://www.washingtonpost.com/lifestyle/magazine/linda-sarsour-reflects-on-the-power--and-risks--of-being-a-muslim-activist/2019/02/15/57e5e5a0-1f3c-11e9-8b59-0a28f2191131_story.html" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.washingtonpost.com/lifestyle/magazine/linda-sarsour-reflects-on-the-power--and-risks--of-being-a-muslim-activist/2019/02/15/57e5e5a0-1f3c-11e9-8b59-0a28f2191131_story.html</a>&nbsp;<a href="https://www.thenation.com/article/archive/can-you-be-a-zionist-feminist-linda-sarsour-says-no/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thenation.com/article/archive/can-you-be-a-zionist-feminist-linda-sarsour-says-no/</a>&nbsp;

เอ็มมา สโตน เพิ่งคว้าออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่สองจาก Poor Things (2023) และนี่คือผลงานที่เธอตั้งใจกับมันและขุดค้นลงไปในตัวละครอย่างลึกที่สุด

Emma Stone นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมคนล่าสุดกับบทที่สุดจะเฟมินิสต์ใน Poor Things (2023)

นี่คือส่วนหนึ่งในการโปรโมตป๊อปอัปสโตร์ของ Paloma Wool และผู้ที่รับหน้าที่เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ในครั้งนี้ก็คือ คาร์โลตา เกอร์เรโร (Carlota Guerrero) ศิลปิน/ช่างภาพหญิงชาวสเปนที่ทำงานศิลปะเพื่อสำรวจเกี่ยวกับความเป็นหญิงและเรือนร่างผู้หญิงมาอย่างยาวนาน

Carlota Guerrero ศิลปินหญิงที่ชวนให้ Kiko Mizuhara มา ‘นอนหลับ’ ในป๊อปอัปสโตร์ของแบรนด์ Paloma Wool

Poor Things หนังที่เล่าเรื่องราวของ เบลลา แบ็กซ์เตอร์ กับการค้นหาตัวตน ค้นหาความสุข และค้นหาวิธีที่จะอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยคนที่จ้องจะหาผลประโยชน์ หรือฉวยโอกาส ‘ผู้หญิง’ ได้อย่างน่าประทับใจ และเสียดสีสังคม ‘สุภาพชน’ อันดัดจริต

Poor Things หนังที่เล่าการเติบโตของผู้หญิง ผู้ใช้ ‘เซ็กซ์’ เป็นสารตั้งต้นในการไปสู่อิสรภาพ และระหว่างทางต้องเผชิญกับวิธีคิดแบบผู้ชายที่คอยมองว่านี่ไม่ใช่ ‘สุภาพชน’ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Conversation

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS