เฮลีย์ มอส หวังว่าจะมีคนแบบทนายอูยองอูเพิ่มขึ้นในชีวิตจริง และควรได้ใช้ชีวิตตามปกติอย่างไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

Haley Moss ทนายหญิงออทิสติกคนแรกของฟลอริดา กับเรื่องราวที่ไม่ต่างจากในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo 

เรตติ้งพุ่งสูงของซีรีส์ฟีลกู๊ดแนวกฎหมายอย่าง Extraordinary Attorney Woo บน Netflix ทำให้บทบาทของผู้หญิงออทิสติกได้รับการพูดถึง และช่วยส่งต่อภาพจำที่ดีให้กับคนเป็นออทิสติกอีกครั้ง เพราะตัวนางเอก หรือทนายอูยองอู (รับบทโดย พัคอึนบิน) แม้จะมีภาวะออทิซึมสเปกตรัม (Autism spectrum disorder) ที่เป็นความผิดปกติทางระบบประสาทพัฒนาการ แต่ยังสามารถแสดงศักยภาพในการเป็นทนายความที่ดีได้ เช่นเดียวกับผู้มีภาวะออทิซึมสเปกตรัมอีกหลายคนในชีวิตจริง ที่ต่างมีความฝัน ความรัก ความสามารถ และควรได้ใช้ชีวิตตามปกติอย่างไม่ถูกเลือกปฏิบัติ แม้ทนายอูยองอู จะเป็นตัวละครสมมติที่สร้างขึ้นมาให้โลดแล่นบนสื่อ และในความจริง เกาหลีใต้เอง ก็ยังไม่มีทนายความหญิงที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่าตัวเองเป็นออทิสติกแต่อย่างใด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทนายความหญิงออทิสติกที่เปิดเผยต่อสาธารณะเลยสักคนบนโลก เธอคนนี้คือ เฮลีย์ มอส (Haley Moss) ทนายความที่เป็นออทิสติกอย่างเปิดเผยคนแรกในฟลอริดา ซึ่งคอยขับเคลื่อนเชิงบวกเกี่ยวกับมุมมองต่อคนเป็นออทิสติก และเรียกร้องพื้นที่ของผู้หญิงออทิสติกในทุกสายอาชีพ &nbsp;แถมเฮลีย์ มอสเองยังเป็นแฟนซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ที่เธอหวังว่าจะมีคนแบบทนายอูยองอูเพิ่มขึ้นในชีวิตจริง และผู้เป็นออทิสติกเองก็ควรได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการผลิตสื่อที่พูดถึง ‘ตัวตนของพวกเขา’ มากขึ้น แถมเธอยังบอกอีกว่า ชีวิตของอูยองอูนั้นแทบไม่ต่างอะไรจากเส้นทางชีวิตของเธอ ในเนื้อเรื่อง อูยองอู จบจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยโซลด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 และสอบเนติบัณฑิตได้คะแนนเกิน 1,500 คะแนน ก่อนได้มาทำงานเป็นทนายความในสำนักกฎหมายใหญ่ฮันบาดา เธอเดบิวต์เป็นทนายความหญิงออทิสติกคนแรกของเกาหลีใต้ แต่ไม่วายถูกสบประมาทจากสายตาคนรอบข้างบางคน ที่ไม่เชื่อว่าเธอจะประกอบอาชีพนี้ได้ แม้เธอจะเก่ง หรืออัจฉริยะแค่ไหน ความพิการก็ยังเป็นกรอบอคติในสังคมที่บังตาผู้คนไม่เลิกไม่รา เหมือนกับเฮลีย์ มอส ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติกตอน 3 ขวบ หมอบอกกับครอบครัวของเธอว่า เธอจะหาเพื่อนไม่ได้ และหางานไม่ได้ สิ่งนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ยังมองว่าคนเป็นออทิสติกนั้นแปลกแยก ซึ่งสิ่งที่หมอพูดครั้งนั้น กลับตรงกันข้ามกับชีวิตจริงของเธอ ที่เธอเลือกจะกำหนดเอง เฮลีย์ มอส เริ่มฝึกพูด ฝึกสื่อสาร และเริ่มเข้าเรียนตอนอายุ 4 ขวบ ลากยาวจนมาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาทั้งในด้านจิตวิทยา และอาชญาวิทยา และสมัครเข้าโรงเรียนกฎหมาย พร้อมตระหนักได้ว่ากฎหมายคือความสนใจของเธออย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการอ่าน การเขียน และการพูดกับคนกลุ่มใหญ่ๆ หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยไมอามี เธอกลายเป็นทนายความออทิสติกคนแรกที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่ Florida Bar ในปี 2019 และได้ทำงานกับสำนักงานกฎหมาย Zumpano Patricios ซึ่งระบุว่าเธอเป็นทนายความออทิสติกที่ทำงานในรัฐนี้อย่างเปิดเผย “ฉันเชื่อว่าการเป็นผู้หญิงออทิสติกมันมีพลังเหลือล้น ฉันอยู่ในพื้นที่ที่วัฒนธรรมทางสังคมไม่ได้ต้อนรับฉัน ฉันที่เป็นคนพิการน่ะ เมื่อสังคมมองว่าเราไร้ประโยชน์ หรือคู่ควรกับความสงสาร มากกว่าศักยภาพ หรือความสามารถ ฉันมักต่อสู้กับความคาดหวังที่ต่ำเตี้ยของสังคมต่อผู้พิการ” “ตัวตนของฉันที่ถูกมองเห็นในสายงานนี้ ท้าทายทัศนคติแบบสเตริโอไทป์มากมายเกี่ยวกับคนเป็นออทิสติก ผู้หญิง และทางเลือกของอาชีพ” “ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงพิการในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบมืออาชีพทำให้เกิดคำถามสองข้อ เราจะยอมรับ และยกย่องผู้ประกอบอาชีพออทิสติกได้อย่างไร และเราจะสนับสนุนผู้หญิงที่ทำงานอย่างไร บางทีคำถามของฉันอาจเป็นส่วนผสมกัน คือเราจะสนับสนุนและผลักดันสังคมให้จ้างงานผู้หญิงออทิสติก และคนพิการกันอย่างไร? เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก” ข้อความเหล่านี้ เฮลีย์ มอส เขียนลงบทความที่เธอเล่าเรื่องราวของตัวเองไว้ลงบนเว็บไซต์ Bustle ปี 2019 แต่ผ่านมา 3 ปี ภาพของสาวออทิสติกที่หลากหลายในสายอาชีพที่แตกต่างกันไป ก็ยังมีให้เห็นน้อยแบบนับนิ้วได้ เมื่อพูดถึงคนออทิสติก หลายคนก็ยังคิดถึงคนที่น่าสงสาร ไร้ทางสู้ ไร้ความสามารถ คนเป็นออทิสติก หรือคนพิการหลายคนจึงต้องลุกขึ้นมาส่งเสียงให้สังคมได้รู้ว่า พวกเขาก็มีศักยภาพ และสามารถทำงานได้ดีเหมือนคนไม่พิการ หลักสำคัญจึงอยู่ที่การ ‘เปิดใจ’ แบบไร้กำแพง สำหรับซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo หลังจากที่ เฮลีย์ มอส ได้ดูแล้ว เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้ The Korea Herald ว่าในเกาหลีเอง ก็คงมีทนายความที่เป็นออทิสติกเหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่มีคนที่กล้าเปิดเผยตัวตนเหมือนกับเธอ “หลายคนที่เป็นออทิสติกกลัวว่าจะถูกเปิดเผยเกี่ยวกับความพิการของตัวเอง เพราะการถูกตีตราเชิงลบมันอยู่รอบๆ คนเป็นคนออทิสติก พวกเขาก็แค่ไม่ต้องการถูกตัดสินว่าต่างออกไป” เฮลีย์ มอส กล่าว และพูดถึงฉากหนึ่งในซีรีส์ที่ทนายอูยองอูถูกจับจ้องว่าเป็นออทิสติก มากกว่าจะโฟกัสความสามารถของเธอ ที่เรียนจบในคะแนนสูงปรี๊ดในโรงเรียนกฎหมาย ซึ่งนี่คือเรื่องจริงที่เฮลีย์ มอสเผชิญจากประสบการณ์การทำงานของเธอ “แม้ว่าฉันจะเรียนโรงเรียนกฎหมายเดียวกัน สอบเนติบัณฑิตเหมือนกัน และมีคุณสมบัติตรงตามอาชีพนี้ ฉันก็มักจะรู้สึกว่า ต้องพิสูจน์ตัวเองมากขึ้นเพื่อให้ได้รับความเคารพ และโอกาสแบบเดียวกับที่คนอื่นๆ เขาได้รับ” เธอบอก และนี่เป็นเครื่องยืนยันว่า หลายคนถูกปลูกฝังกันมาว่า คนออทิสติกทำอะไรไม่เป็น และไม่มีทางจะเป็นคนปกติได้ ทั้งๆ ที่ถ้าเปิดใจสักนิด จะเห็นว่าคนออทิสติกหลายคนมีความสามารถ และควรได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ข้อดีของการเป็นออทิสติก ที่เฮลีย์ มอส ค้นพบกับตัวเองคือ ความสามารถด้านการจดจำสิ่งต่างๆ อย่างแม่นยำ เธอทำงานในสำนักงานกฎหมาย Zumpano Patricios ในไมอามี และส่วนใหญ่จะได้รับมอบหมายให้จัดการกับคดีกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งมีข้อมูลมากมายเป็นกองโต แต่ความสามารถในการจดจำข้อมูลโดยละเอียด และรู้ว่าจุดใดเชื่อมต่อกันอย่างไร ซึ่งมีประโยชน์กับเธอมาก แถมการที่คาแรกเตอร์อูยองอูในซีรีส์หลงใหลในปลาวาฬมาก และมักกินแต่คิมบับซ้ำๆ เธอบอกว่านั่นก็ถือเป็นข้อดี โดย เฮลีย์ มอส บอกว่า “เธอ (อูยองอู) กินอาหารแบบเดิมๆ ทุกวัน นั่นคือสิ่งที่ฉันก็ทำค่ะ และแพสชันของยองอูเกี่ยวกับปลาวาฬมันก็ทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ความสุขจากการหมกหมุ่นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่แบบนี้ ฉันก็ได้รับประสบการณ์นั้นมามากจากการวาดภาพเช่นกัน” โดยงานศิลปะของเฮลีย์ มอส ชื่นชอบได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะป๊อปอาร์ต และอนิเมะ สิ่งที่เธอค้นพบเกี่ยวกับซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo คือการที่อูยองอู ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อสอนบทเรียนชีวิตเกี่ยวกับความพิการให้ใคร แต่ “ในซีรีส์ อูยองอู ล้มลุกคลุกคลาน เรียนรู้ และเติบโตไปพร้อมๆ กับคนอื่น สิ่งที่มักเกิดขึ้นในสื่อส่วนใหญ่ คือการที่เราโฟกัสคนออทิสติกที่ดูจะไม่เหมือนคนทั่วไป ทั้งบุคลิก และความสนใจ เราไม่ได้รับโอกาสแบบเดียวกัน” “ฉันดีใจมากที่สื่อเกาหลีได้สร้างรายการเกี่ยวกับคนออทิสติก สำหรับผู้ชมชาวเกาหลีเอง และผู้ชมทั่วโลกได้ดู ซึ่งเราต้องการภาพเชิงบวกของคนออทิสติกมากขึ้นไปอีก ฉันรักที่จะได้เห็นนักแสดงออทิสติก อาจจะเป็นในซีซั่นอื่นๆ หรือการเพิ่มสื่อแบบนี้ให้มากขึ้นค่ะ” สำหรับเฮลีย์ มอสแล้ว การที่สื่อจะเป็น media representation ให้กับคนพิการได้อย่างถูกต้องจริงๆ เธอเชื่อว่าควรมีคนออทิสติกเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิตสื่อมากขึ้น ในอนาคตเราก็หวังว่าจะเห็นคนออทิสติกหลายคนได้ใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ สามารถทำอาชีพที่อยากทำ ได้ทำตามความฝันของตัวเองโดยปราศจากข้อจำกัด ได้มีความสัมพันธ์กับผู้คนโดยที่ไม่ถูกตั้งคำถาม และมีบทบาทของคนออทิสติกในสื่อที่มากกว่าความน่าสงสาร แต่ฉายชีวิตประจำวันปกติของพวกเขา ที่เหมือนมนุษย์ทั่วไป คงจะดีถ้ามีคนออทิสติกทุกคนได้มีโอกาสอย่างอูยองอู และเฮลีย์ มอส อ้างอิง: <a href="https://www.bustle.com/p/im-a-female-autistic-lawyer-every-day-i-have-to-counter-these-stereotypes-17130613" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bustle.com/p/im-a-female-autistic-lawyer-every-day-i-have-to-counter-these-stereotypes-17130613</a> <a href="https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20220720000804" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.koreaherald.com/view.php?ud=20220720000804</a> <a href="https://www.today.com/health/haley-moss-first-lawyer-florida-open-about-having-autism-t149068" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.today.com/health/haley-moss-first-lawyer-florida-open-about-having-autism-t149068</a>&nbsp;

สำหรับเราที่ลองหยิบ Buffy The Vampire Slayer มาดูอีกครั้งด้วยเลนส์ของยุคสมัยปัจจุบันก็พบว่ามันเป็นซีรีส์ที่ ‘Woke’ มาก่อนกาล ในความพยายามส่งเมสเสจพลังหญิงด้วยการสร้างเฟมินิสต์ไอคอนสักคนเพื่อต่อสู้กับแนวคิด ‘Misogynist’ ในแง่มุมต่างๆ

27 ปี ‘Buffy The Vampire Slayer’ มือปราบแวมไพร์ผู้ต่อสู้กับแนวคิด Misogynist ผ่านมุมอ่อนแอในตัวเอง และยืนยันเรื่องพลังหญิงผ่าน ‘ทางเลือก’ ที่มีต่อเรื่องเซ็กซ์

แอนน์ แฮทธาเวย์ และ เจสสิกา แชนเทส โคจรมาพบกัน ที่ต่างฝ่ายต่างรับบทเป็น ‘แม่’ ของลูก ในภาพยนตร์ดราม่า ระทึกขวัญ ที่สุดแสนจะปั่นประสาทคนดู อย่าง Mothers’ Instinct หรือ สันดานแม่

Mothers’ Instinct : สันดานแม่ เรื่องของผู้หญิงที่ต้องสู้กันเอง เพื่อพิสูจน์ความเป็นแม่ที่ดี และกล่าวโทษกันเองว่าใครเป็นแม่ที่แย่

ชาวเน็ตเกาหลีมีการตั้งคำถามไปยังสมาชิกทั้ง 8 คนจากวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในตำนานอย่าง Girls' Generation ที่ค่าเฉลี่ยอายุของพวกเธออยู่ที่ 35 ปี แต่กลับไม่มีสมาชิกคนใดเลยที่แต่งงาน

“พวกเธอไม่จำเป็นต้องแต่งงาน เพียงเพราะอยู่ในวัยที่ต้องแต่งงาน” สาวๆ Girls' Generation ถูกชาวเน็ตเกาหลีตั้งคำถามว่าอายุ 30+ แล้ว ทำไมยังไม่แต่งงาน?! ขณะที่ผู้หญิงเกาหลีจำนวนมากก็มองการแต่งงานเป็นเรื่อง ‘ไม่จำเป็น’ มากขึ้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Films

Haley Moss ทนายหญิงออทิสติกคนแรกของฟลอริดา กับเรื่องราวที่ไม่ต่างจากในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS