ถ้าไม่ใช่คนสวยตาม Beauty Standard อาจมีคนไม่เชื่อว่า (หน้าตาแบบนี้) จะถูกคุกคามทางเพศได้ นี้เป็นอีกหนึ่งความจริงน่าเศร้า ที่สะท้อนออกจากซีรีส์เกาหลีใต้ 'Mask Girl' ผ่านตัวละคร 'คิมโมมี' บน Netflix 

คิมโมมี Mask Girl ตัวแทนของหญิงสาว ที่เมื่อโดนคุกคามทางเพศแต่คนไม่เชื่อ เพียงเพราะไม่ได้สวยตาม Beauty Standard

ถ้าไม่ใช่คนสวยตาม <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Beauty%20Standard" rel="noopener noreferrer" target="_blank">Beauty Standard</a> อาจมีคนไม่เชื่อว่า (หน้าตาแบบนี้) จะถูก<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A8" rel="noopener noreferrer" target="_blank">คุกคามทางเพศ</a>ได้ ถ้าไม่ใช่คนสวยตาม Beauty Standard อาจมีคนคิดว่าไม่มีสิทธิจะไม่สมยอม (เพราะไม่ได้มีทางเลือกมากนัก?) เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งความจริงน่าเศร้า ที่สะท้อนออกจากซีรีส์ Mask Girl Mask Girl ซีรีส์เกาหลีใต้ที่กำลังเป็นกระแสอยู่บน <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Netflix" rel="noopener noreferrer" target="_blank">Netflix</a> ช่วงนี้ ปล่อยหมัดหนักตั้งแต่ 2 ตอนแรก ที่ทำงานกับใจเราและใครหลายๆ คนในฐานะผู้หญิง พร้อมชวนตั้งคำถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่า ถ้าไม่ได้เป็นคนสวยตามที่คนส่วนใหญ่บอกว่าสวย เสียงของผู้หญิงอย่างเรา จะดังเท่ากับคนสวยหรือเปล่า *มีการเปิดเผยเนื้อหาซีรีส์ ตั้งแต่ตอนอนุบาล ‘คิมโมมี’ นางเอกของเรื่อง เธอฝันอยากเป็นดารา และรักในการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ทว่ายิ่งโตขึ้น รูปลักษณ์ของเธอกลับสวนทางกับภาพของคนดังในโลกทุนนิยม คนหน้าแบบโมมีกลายเป็นคนนอกกรอบความสวย เธอโดนแม่ของตัวเองพูดใส่ว่า “จะเป็นนักร้องด้วยหน้าแบบนี้เหรอ เลิกฝันซะเถอะ” หรือตอนมัธยม ก็โดนคนตะโกนและขำใส่ว่า “อัปลักษณ์จังโว้ย” ขณะที่คนสวยๆ ขึ้นแสดงบนเวทีทีไร เสียงกรี๊ด เสียงเชียร์ กลับดังกระหึ่ม ทั้งหมดทั้งมวลทำให้คิมโมมีเลือกจะมีโลก 2 ใบ โลกแรก เธอเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ที่ยังเห็นการเลือกปฏิบัติเพราะหน้าตาอยู่ในที่ทำงาน โลกถัดมา เธอสวมหน้ากากในฐานะ Mask Girl ไลฟ์เต้นแซ่บๆ ด้วยหุ่นอันเซ็กซี่ที่เธอมีจนได้รับความสนใจอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะในฐานะคิมโมมี หรือ Mask Girl ความจริงที่ว่าเธอไม่ได้สวยตาม Beauty Standard ก็นำพาเธอไปเจอกับความเจ็บปวดใจจากการโดนคุกคามทางเพศด้วยกันทั้งนั้น “คุณทำบ้าอะไรของคุณ มาจับฉันทำไม” คิมโมมีโดนผู้ชายจับก้นขณะยืนอยู่บนรถไฟตอนเดินทางกลับบ้าน เธอลากผู้ชายคนนี้ไปที่สถานีตำรวจ สิ่งแรกที่ตำรวจถาม “เขาจับคุณจริงๆ ใช่ไหม” เธอตอบกลับว่า “แล้วฉันจะโกหกเรื่องแบบนี้ทำไม” “มีหลักฐานว่าฉันจับไหมล่ะ ผู้หญิงคนนี้กล่าวหาคนบริสุทธิ์ชัดๆ ส่องกระจกดูหน้าตัวเองสิ ทำไมฉันต้องจับคนหน้าตาแบบคุณด้วย” แม้ว่าซีรีส์จะไม่ได้เลือกให้คนดูทางบ้านอย่างเราๆ เห็นกันจะจะว่าผู้ชายจับก้นคิมโมมี ภาพที่เราเห็นมีแต่คิมโมมีสะดุ้งตอนที่มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านเธอและโดนตัวเธอ ซึ่งนี่กลับเป็นการเปิดโอกาสให้คนดูตัดสินเอาเองด้วยว่าจะ ‘เชื่อ’ เธอไหม? ในความเป็นจริง จากงานวิจัยบางชิ้น ก็แสดงผลออกมาว่า คนมักจะมีแนวโน้ม ‘ไม่เชื่อ’ ผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์ไม่ตรงกรอบความงามจะโดนคุกคามทางเพศ กลับกันจะมีแนวโน้ม ‘เชื่อ’ มากกว่า หากเป็นผู้หญิงที่ดูวัยรุ่น และอยู่ในนิยามของ ‘conventionally attractive’ หรือความสวยตามธรรมเนียม สวยแบบที่คนมองว่าคนนี้แหละสวย การศึกษานี้ตีพิมพ์ในปี 2021 บน Journal of Personality and Social Psychology โดยตรวจสอบว่าผู้เข้าร่วม 4,000 คน จะคิดว่าใครถูกคุกคาม โดยหนึ่งในสิ่งที่นักวิจัยทำคือขอให้ผู้เข้าร่วมวาดภาพเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศที่ดูเป็น ‘แบบอย่าง’ ซึ่งภาพที่ออกมาก็ชัดเลยว่าลุคภายนอกของเหยื่อยังคงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ “ผลการวิจัยทำให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีความ masculine มากกว่า และไม่ได้เป็นคนที่น่าดึงดูดใจ จะมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่า และพวกเธอจะได้รับความบาดเจ็บทางจิตใจน้อยกว่า เพราะว่าพวกเธอมีความทุกข์น้อยกว่า และผู้กระทำผิดสมควรได้รับโทษน้อยกว่า” Bryn Bandt-Law หนึ่งในผู้เขียนการศึกษานี้กล่าว ซึ่งนี่คือความผิดเพี้ยนของสังคม ที่มองว่าคนที่ไม่ได้สวยตามสายตาคนส่วนมาก จะไม่ได้รับความน่าเชื่อถือ และเมินเฉยความเจ็บปวดของคนที่ไม่สวยอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่เพียงเรื่องความน่าเชื่อถือ แต่ผู้หญิงที่ไม่สวยตามค่านิยม การศึกษาพบว่าจะถูกสันนิษฐานว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอันตรายจากการคุกคาม “หากผู้คนไม่เชื่อว่ามีใครบางคนถูกคุกคาม หรือถูกทำร้าย พวกเขาจะมีโอกาสลงโทษผู้กระทำผิดน้อยลง” Bandt-Law กล่าว เช่นเดียวกับ Elizabeth L. Jeglic ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ John Jay College ในนิวยอร์ก อธิบายว่า “การศึกษาจำนวนมากพบว่าผู้หญิงที่ถูกมองว่าดูมีความ feminine และดูมีเสน่ห์ทางร่างกายมากกว่า มีแนวโน้มที่คนจะเชื่อพวกเธอมากกว่าเมื่อออกมาพูดเรื่อง <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Sexual%20Harassment" rel="noopener noreferrer" target="_blank">sexual harassment</a>” เช่นเดียวกับตอนที่คิมโมมีได้นัดเจอกับหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับ Mask Girl ซึ่งตอนแรกเธอก็ดีใจที่เมื่อเขาเห็นหน้าจริงๆ ของเธอ เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับเธอแต่อย่างใด ทว่าสุดท้าย เขากลับชักจูงเธอให้เข้าโรงแรมกับเขา และพยายามที่จะมีเซ็กซ์กับเธอ เมื่อเธอปฏิเสธ ก็ได้รับคำพูดเจ็บแสบกลับมาว่า “อีหน้าเน่านี่โคตรเล่นตัวเลยว่ะ ในไลฟ์ก็เห็นหมดแล้ว ทั้งที่ให้ดูหมดแล้ว จะหยิ่งอะไรนักหนา เป็นห่าอะไรวะ ถ้าหน้าตาสวยสักหน่อย ยังพอให้อภัยได้” และเขาก็พยายามจะข่มขืนเธอ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมา ประโยคหนึ่งที่หนุ่มโอตาคุ จูโอนัม ที่เข้ามาหาคิมโมมีในวันนั้นเพื่อหวังจะช่วย เพราะมีความคลั่งไคล้เธอพูด “ถ้าแจ้งความตอนนี้ คุณโมมีติดคุกได้เลยนะ” คิมโมมีถามด้วยความสงสัยและหวาดกลัวว่า “ถ้าบอกว่าเป็นการป้องกันตัว ถ้าบอกไปแบบนั้น ไม่ได้เหรอคะ” แต่หนุ่มคนนี้ก็ยืนยันว่า “แต่เป็นความจริงที่คุณโมมีเข้าโมเต็ลมากับมันเองนี่ครับ” ความไม่สวย + เป็นผู้หญิง + อยู่ในสังคมที่โทษเหยื่อกันอยู่แล้ว ดูเหมือนมันจะกดดันให้คิมโมมีรู้สึกว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมอะไรทั้งสิ้นจากเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นอะไรที่น่าเศร้า และสะท้อนกฎหมายเรื่องการทำร้ายทางเพศที่ทั้งเกาหลีใต้ หรือไทยเอง มีปัญหาอยู่มาก โดยหนึ่งในเหตุผลที่มันมีปัญหาและยังไม่ถูกแก้ไข ส่วนหนึ่งเพราะทัศนคติของคนในสังคมยังโทษเหยื่อกันอยู่มาก คนสวยหลายคนก็ยังโดนตั้งคำถามในหลายๆ ครั้ง เพียงแต่ว่ายิ่งหากเป็นเหยื่อที่ไม่ได้สวยถูกใจ ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่คนจะไม่เชื่อ หรือมองความรุนแรงนั้นน้อยกว่า ราวกับว่าเธอไม่ได้เป็นคนน่าเห็นใจ ความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะหน้าตาแบบไหน หรือเพศอะไร หากโดนคุกคามทางเพศก็ควรจะได้รับความเป็นธรรมกันทั้งนั้น หน้าที่ของคนในสังคมคือเป็นหูเป็นตาให้กับการกระทำอันย่ำแย่ของผู้กระทำโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติเพราะเป็นคนนั้น หรือคนนี้ หน้าที่ของตำรวจคือรับฟังและดำเนินคดีอย่างไม่ตัดสิน และหน้าที่ของผู้มีอำนาจ ก็ควรจะเปลี่ยนโครงสร้างกฎหมายให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้หญิงทุกคน โดยที่พวกเธอไม่ต้องมานั่งคิดว่า ถ้าฉันไปแจ้งความอีก แล้วใครจะเชื่อฉัน เพราะฉันไม่สวยเอง อ้างอิง: <a href="https://www.seattletimes.com/seattle-news/people-are-more-likely-to-believe-sexual-harassment-claims-from-women-who-are-young-and-conventionally-attractive-uw-study-says/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.seattletimes.com/seattle-news/people-are-more-likely-to-believe-sexual-harassment-claims-from-women-who-are-young-and-conventionally-attractive-uw-study-says/</a> <a href="https://www.verywellmind.com/how-the-idea-of-prototypical-beauty-affects-response-to-sexual-harassment-claims-5096887" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.verywellmind.com/how-the-idea-of-prototypical-beauty-affects-response-to-sexual-harassment-claims-5096887</a>&nbsp;

แม้ไม่ได้เป็นคู่หลัก แต่ฉากไหนที่ออกมาคู่กัน ก็ทำเอาแฟนๆ บางส่วนแอบฟิน คือคู่ของ ‘ครูแบมแบม’ กับ ‘ครูนิดา’ จากซีรีส์ ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’ ค่าย GMM ที่ฉายให้เห็นความเป็นไปได้ของคู่รักสาวทรานส์วัยกลางคน

สำรวจความหลากหลายของหญิงรักหญิง
ภายใต้ร่ม Sapphic ผ่านตัวละครใน
ซีรีส์ ‘23.5 องศาที่โลกเอียง’ ที่ฉายให้เห็น
ความเป็นไปได้ของคู่รักสาวทรานส์วัยกลางคน

นี่คือส่วนหนึ่งในการโปรโมตป๊อปอัปสโตร์ของ Paloma Wool และผู้ที่รับหน้าที่เป็นอาร์ตไดเร็กเตอร์ในครั้งนี้ก็คือ คาร์โลตา เกอร์เรโร (Carlota Guerrero) ศิลปิน/ช่างภาพหญิงชาวสเปนที่ทำงานศิลปะเพื่อสำรวจเกี่ยวกับความเป็นหญิงและเรือนร่างผู้หญิงมาอย่างยาวนาน

Carlota Guerrero ศิลปินหญิงที่ชวนให้ Kiko Mizuhara มา ‘นอนหลับ’ ในป๊อปอัปสโตร์ของแบรนด์ Paloma Wool

เอ็มมา สโตน เพิ่งคว้าออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่สองจาก Poor Things (2023) และนี่คือผลงานที่เธอตั้งใจกับมันและขุดค้นลงไปในตัวละครอย่างลึกที่สุด

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Films

คิมโมมี Mask Girl ตัวแทนของหญิงสาว ที่เมื่อโดนคุกคามทางเพศแต่คนไม่เชื่อ เพียงเพราะไม่ได้สวยตาม Beauty Standard

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS