ขณะที่ ‘หลานม่า’ มีตัวละครหลักเป็นหลานชาย แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ตัวละครหญิงทั้งหลายในเรื่องล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น อาซิว อามุ่ย รวมถึงตัวอาม่าเอง

อาม่า อาซิว อามุ่ย: 3 สาวแห่ง ‘หลานม่า’ 
ภาพชีวิตลูกสาว-หลานสาวครอบครัวจีน
ที่ยังต้องผูกติดกับหน้าที่ดูแลคนแก่ในบ้าน
โดยไม่อาจหวังอะไรตอบแทน (?)

ขณะที่&nbsp;‘หลานม่า’ มีตัวละครหลักเป็นหลานชาย แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ตัวละครหญิงทั้งหลายในเรื่องล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น อาซิว อามุ่ย รวมถึงตัวอาม่าเอง ที่เรื่องราวของพวกเธอล้วนแต่ฉายให้เห็นทางเดินชีวิตและการถูกปฏิบัติในครอบครัว ที่แตกต่างกันออกไปของผู้หญิงที่เติบโตมาในบ้านคนจีน และไม่เกินจริงเลย หากจะบอกว่าลูกสาวหรือหลานสาวจากครอบครัวจีนหลายคนอาจมีส่วนหนึ่งในชีวิตที่ตรงกับชีวิตอาม่า ตรงกับชีวิตอาซิว หรือตรงกับชีวิตอามุ่ย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง‘หลานม่า’ คือภาพยนตร์แนวดราม่าครอบครัวเรื่องล่าสุดจากค่าย GDH ที่ทำให้ต่อมน้ำตาของผู้ชมทำงานหนักมาก ทิชชู่ในมือเปียกชุ่มกันถ้วนหน้า (รวมถึงเราด้วย) หนังเรื่องนี้ทำงานทั้งกับคนที่สนิทกับผู้สูงอายุที่บ้าน ที่คงจะได้เห็นภาพการดูแลผู้สูงอายุอันคุ้นตา บางประโยค และบางสถานการณ์แทบจะถอดแบบจากชีวิตจริงของใครหลายคนออกมา จนทำให้อินกันได้อย่างง่ายดาย เพราะหนังเรื่องนี้ก็ทำให้หลายคนคิดถึงวันวาน และคิดถึงคนในครอบครัวที่ไม่อยู่ด้วยกันวันนี้ หรือสำหรับคนที่ไม่ได้ผูกพันกับผู้สูงอายุที่บ้าน ได้ดูแล้วก็อาจทำให้มองเห็นอีกด้านของผู้สูงอายุที่เราอาจไม่เคยมองเห็นหรือนึกถึงมาก่อน&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQIhtdCgknGmOzB7wz9JrbtMe9vA1.jpeg" data-id="101526" data-url="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQIhtdCgknGmOzB7wz9JrbtMe9vA1.jpeg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หลานม่า เล่าเรื่องของ เอ็ม (บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล) ที่อยากรวยทางลัดเหมือนลูกพี่ลูกน้องอย่าง มุ่ย (ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล) เนื่องจากเธอเป็นทายาทคนเดียวที่ได้รับมรดกอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากอากง เพราะเป็นหลานสาวคนเดียวที่ ‘ดูแล’ อากงอย่างดีจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต อาเอ็มของเราผู้ดรอปเรียนออกมาหวังจะเป็นนักแคสต์เกมที่มีชื่อเสียง แต่ก็ยังไม่ถึงฝั่งฝันจึงหัวหมอ อยากรวยทางลัด อาสาไปดูแลอาม่า (แต๋ว-อุษา เสมคำ) ที่ป่วยเป็นมะเร็ง และอยู่ได้อีกไม่ถึงปี เพื่อหวังมรดกความที่เป็นเรื่องราวของ&nbsp;‘ครอบครัวคนจีน’ ประเด็นเล็กๆ ที่ถูกโปรยไว้ระหว่างเส้นเรื่องหลักของคู่ม่า-หลาน คือชีวิตของ <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ผู้หญิง’</a> ในบ้านคนจีน ทั้ง ‘อาม่า’ ผู้โตมากับการถูกกดทับจากการเป็นลูกสาวในบ้านที่ครอบครัวยกสมบัติทุกอย่างให้พี่ชายทั้งหมด แม้เธอจะเป็นคนดูแลพ่อแม่แต่เพียงผู้เดียวก็ตาม ความคิดนี้ตกทอดมาถึง ‘อาซิว’ (เจีย-สฤญรัตน์ โทมัส) ลูกสาวคนกลางของอาม่า ผู้เป็นแม่ของเอ็ม ที่ทำงานงกๆ เลี้ยงลูกชายคนเดียวของเธอ พร้อมกับต้องเป็นคนที่รับบทดูแลแม่มากที่สุด เมื่อเทียบกับลูกชายคนอื่นๆ แต่อาม่ากลับชัดเจนว่ารักลูกชายคนโตมากที่สุด จนถึง ‘อามุ่ย’ หลานสาวอากง ที่แม้จะมีบทบาทดูแลครอบครัวเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในเรื่อง แต่เธอกลับเป็นผู้หญิงคนเดียว ที่ได้รับมรดกจากครอบครัว จนทำให้หลายคนได้เห็นว่า ผู้หญิงที่ ‘ได้’ รับอะไรตอบแทนจากการดูแลคนในครอบครัวยังมีหลงเหลืออยู่ (แม้จะเป็นการหว่านพืชหวังผลก็ตาม)<img src="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQDO5msPgg80s1a2hsshPaNtQa7Ae9vA1.png" data-id="101526" data-url="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQDO5msPgg80s1a2hsshPaNtQa7Ae9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">อาม่า&nbsp;เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เกิดในครอบครัวคนจีน และเป็นคนดูแลพ่อแม่ ตั้งแต่เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว และทำทุกอย่างเสมือนว่าการดูแลคนที่บ้านเป็น ‘งานเต็มเวลา’ ของเธอ แต่สุดท้าย ความรักที่เธอให้พ่อแม่ และการดูแลอย่างดีของเธอ เธอก็ไม่ได้อะไรตอบแทน เพราะเมื่อพ่อแม่ เสียชีวิตลง มรดกทั้งหมด ก็ตกเป็นของพี่ชาย ผู้ที่ไม่ได้มาดูแลอะไรคนในบ้าน แต่ตัวอาม่าที่แม้จะไม่ได้รับมรดกอะไร กลับไม่ได้รู้สึกถือโทษโกรธ เสมือนว่าเธอถูกปลูกฝังมาแล้วว่า หน้าที่การดูแลคนในบ้าน เป็นหน้าที่ของ ‘ผู้หญิง’ และหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวด้วยเงินเป็นของ ‘ผู้ชาย’ แต่เมื่อถึงวันที่อาม่าต้องการจะใช้เงิน แล้วกลับไปหาคนเป็นพี่ช่วงที่เธอเป็นมะเร็ง คนดูอย่างเรากลับได้เห็นฉากสะเทือนอารมณ์ และเรียกน้ำตาฉากหนึ่ง ที่คนเป็นพี่ไม่ได้ให้การช่วยเหลืออะไรเธอเลยแม้แต่น้อย ที่สุดแล้วอาม่า ก็คือลูกสาวของครอบครัวที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับลูกสาว เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายเพื่อเป็นภรรยาที่ดี และมีลูกเพื่อสืบวงศ์ตระกูลออกไป ขณะเดียวกันเธอก็ยังต้องเป็นลูกสาวที่คอยดูแลครอบครัวให้ดี ซึ่งแม้ความไม่เท่าเทียมนี้จะเกิดกับตัวเธอเอง แต่ค่านิยมที่ฝังรากลึกก็ทำให้อาม่าไม่รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อนอะไรขนาดนั้น ทั้งยังซึมซับและนำเอามาใช้กับชีวิตตัวเองด้วยเช่นกัน<img src="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQNS0B4mrhPNShNjVUBXXDjse9vA1.jpg" data-id="101526" data-url="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQNS0B4mrhPNShNjVUBXXDjse9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">อาซิว ลูกสาวคนเดียวของอาม่า ที่ชีวิตก็คล้ายๆ กับอาม่า คือการที่เธอเป็นลูกสาวที่ต้องดูแลคนเป็นแม่มากที่สุด เพราะลูกชายแต่ละคนไม่คิดจะดูแล หรือมาดูแลแค่พอเป็นพิธี ลูกชายคนเล็กไม่เอาไหน เป็นหนี้ก้อนโต ส่วนลูกชายคนโตก็หามาให้แต่เงิน เราจะเห็นว่าในทุกฉาก นอกจากเอ็มที่รับบทพาอาม่าไปโรงพยาบาลแล้ว จะมีแต่อาซิวคนเดียวเท่านั้นที่พาอาม่าไปโรงพยาบาล เธอพยายามเปลี่ยนกะการทำงานจนไม่ได้นอนเพื่อมาดูแลแม่ของเธอ แต่ก็ยังถูกตั้งคำถามจากลูกชายของตัวเองว่าที่ทำดีกับอาม่า เพราะหวังอะไรใช่ไหม?...ทั้งที่จริงแล้ว มันคือบทบาทที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิดเป็นหญิง และการคิดว่าจะมีอะไรตอบแทนกลับมาหรือไม่นั้นอาจไม่ได้อยู่ในสมการตั้งแต่ต้นด้วยซ้ำ เพราะเธอล้วนแต่เติบโตมาพร้อมกับการเห็นว่า <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ลูกสาว’</a> ติดอยู่กับหน้าที่นี้โดยไม่มีเงื่อนไขมาหลายต่อหลายรุ่นแล้ว<img src="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQCl5s5rEGsxnep1V2OgvNGgwbke9vA1.png" data-id="101526" data-url="https://media.thairath.co.th/image/UcdiWFiDqs1a2h1giFficgrmQCl5s5rEGsxnep1V2OgvNGgwbke9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">และ อามุ่ย&nbsp;หลานสาวของอากง ผู้สร้างเรื่องจนเป็นทอล์กออฟเดอะแฟมิลี่ เมื่ออากงที่เสียชีวิตลงตัดสินใจยกสมบัติทั้งหมดให้อามุ่ยคนเดียว ทำให้ญาติๆ บ้านคนจีนเมาท์มอยกัน รวมถึงมีการตั้งคำถามในเชิงแปลกใจกับการที่อามุ่ยซึ่งเป็นผู้หญิงได้สมบัตินี้ไปแทนลูกหลานคนอื่นๆชัดเจนว่าอามุ่ยดูแลอากงอย่างดี แม้จะมีเจตนาแอบแฝง แต่ก็พูดได้ยากว่าเจตนาที่ว่านี้มันแย่ขนาดนั้นไหม เพราะที่สุดแล้ว เธอเพียงแต่ต้องการให้การดูแลคนแก่ในครอบครัวที่เป็น ‘งานเต็มเวลา’ และเคยเห็นหน้าที่บังคับของลูกสาวหลานสาวนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนให้เธอเช่นกัน หนังยังฉายให้เห็นอีกว่า เธอเป็นคนเดียวที่ดูแลอากง เข้าใจอากง ขณะที่ลูกหลานคนอื่นแวะเวียนมาหาแป๊บเดียวแล้วก็กลับบ้านไป แต่ความรักที่เธอมีให้อากงนั้นเป็นเรื่องจริง ความผูกพันที่มีให้อากงก็เป็นเรื่องจริง&nbsp;ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งความน่าสนใจของตัวละครอามุ่ยคืออาชีพของเธอ ที่นอกจากการดูแลอากงแล้ว เธอยังทำ OnlyFan เพื่อเลี้ยงชีพด้วย เธอจึงเป็นสาวเชื้อสายจีนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตฉีกไปจากขนบเดิมจริงๆ ไม่ว่าจะทั้งการทำอาชีพที่ขัดกับมุมมองที่คาดหวังให้ผู้หญิงอยู่ในกรอบ หรือการที่กลายเป็นผู้หญิงที่ได้สมบัติแต่เพียงผู้เดียวในตระกูลคนจีน และนี่อาจเป็นทิศทางใหม่ๆ ที่หนังพยายามให้เราได้เห็นว่าครอบครัวจีนเองก็ไม่จำเป็นต้องย่ำอยู่กับค่านิยมชายเป็นใหญ่อย่างยุคโบราณอีกต่อไปแล้ว‘หลานม่า’ จึงเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนเรื่องความผูกพันในครอบครัวพร้อมๆ กับความสำคัญของ care work หรืองานดูแลสิ่งต่างๆ ในบ้าน รวมถึงการสลับบทบาททางเพศที่เห็นได้ชัดผ่านอาเอ็มและอามุ่ย ซึ่งฝ่ายชายเองได้เรียนรู้และสัมผัสสิ่งที่ผู้หญิงถูกคาดหวังให้ต้องทำตลอดมา เมื่อมองว่านี่เป็นผลงานของผู้กำกับชายอย่าง พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์&nbsp;ก็นับว่าคือการจ้องมองเข้าไปในความสัมพันธ์ของครอบครัวจีนที่มีเรื่องของค่านิยมชายเป็นใหญ่ส่งต่อมาหลายต่อหลายรุ่นได้อย่างละเอียดละออและน่าสนใจมากทีเดียว

การปรากฏตัวในหน้าสื่อของ ซิดนีย์ สวีนีย์ (Sydney Sweeney) มักมาพร้อมกับพาดหัว 'เซ็กซี่' อยู่เกือบตลอดเวลา ทำให้เธอถูกมองเป็นนักแสดงสาวเซ็กซี่ที่รับแต่บทที่ต้องเปลื้องเนื้อเปลื้องหนัง ทั้งที่จริงเธอยังมีอีกหลายๆ มิติที่น่าจดจำ

Sydney Sweeney นักแสดงสาวมากความสามารถที่กลับถูกจดจำที่เรือนร่างสุดเซ็กซี่

การที่บียอนเซ่ถูกวงการคันทรีปฏิเสธไม่ใช่เพียงเพราะเธอคือป๊อปสตาร์ แต่ยังเป็นเพราะว่าเธอเป็นคนดำ และเหตุที่วงการเพลงคันทรีในอเมริกาซีเรียสเรื่องสีผิวกันนัก จนเกิดแฮชแท็กที่ว่า #CountryMusicIsSoWhite ก็มีที่มาตั้งแต่ยุค 20s กันเลยทีเดียว

Beyonce กับการกลับมาทำเพลงคันทรีอีกครั้ง ในอัลบั้ม Cowboy Carter ที่แม้จะมีดราม่าแต่ก็ตอกย้ำว่าเธอจริงจังกับมัน

ชาวเน็ตเกาหลีมีการตั้งคำถามไปยังสมาชิกทั้ง 8 คนจากวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในตำนานอย่าง Girls' Generation ที่ค่าเฉลี่ยอายุของพวกเธออยู่ที่ 35 ปี แต่กลับไม่มีสมาชิกคนใดเลยที่แต่งงาน

“พวกเธอไม่จำเป็นต้องแต่งงาน เพียงเพราะอยู่ในวัยที่ต้องแต่งงาน” สาวๆ Girls' Generation ถูกชาวเน็ตเกาหลีตั้งคำถามว่าอายุ 30+ แล้ว ทำไมยังไม่แต่งงาน?! ขณะที่ผู้หญิงเกาหลีจำนวนมากก็มองการแต่งงานเป็นเรื่อง ‘ไม่จำเป็น’ มากขึ้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Films

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS