เอ็มวีกำลังบอกกับเราว่าการ ‘กลัวอ้วน’ นั้นมีแต่ทำให้เกิดความทุกข์ไม่ใช่หรอกหรือ? 

เอ็มวี Anti-Hero จาก Taylor Swift  เข้าข่าย Fat Shaming หรือเป็นเพียงการ ถ่ายทอดประสบการณ์ที่เราต่างเคยพบเจอ

“Anti-Hero เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของฉันที่ฉันเคยเขียนขึ้นมา ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้ลงไปขุดคุ้ยถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัยของฉันในรายละเอียดนี้มาก่อนเลย…เพลงนี้เป็นไกด์ทัวร์ที่แท้จริงในทุกๆ สิ่งที่ฉันมักจะเกลียดเกี่ยวกับตัวเอง…ฉันชอบ Anti-Hero มาก เพราะฉันคิดว่ามันตรงไปตรงมาดี” เทเลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift)&nbsp;พูดถึงความในใจต่อเพลง Anti-Hero ช่วงก่อนที่เธอจะปล่อยอัลบั้มเต็ม Midnights และเอ็มวีเพลงนี้ออกมา เพื่อสื่อสารว่าเบื้องลึกในจิตใจ เธอรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ และรู้สึกไม่ชอบตัวเองอย่างไรบ้าง แต่ทีนี้เมื่อเอ็มวีปล่อยออกมา ฉากที่เธอขึ้นชั่งน้ำหนัก แล้วเข็มตาชั่งขึ้นคำว่า ‘Fat’ พร้อมกับมีเธออีกคนกำลังมองแล้วส่ายหัว นักวิจารณ์ และผู้ชมหลายคนต่างตีความว่าฉากนี้เข้าข่าย fat-shaming หรือการเหยียดคนอ้วน ไปจนถึง fat phobia ปลูกฝังให้คนเกลียดกลัวคนอ้วน จนเธอตัดสินใจตัดฉากนั้นทิ้งในเอ็มวี ทำให้เราอยากชวนตั้งคำถามว่าถ้าเทเลอร์ออกมาสื่อสารว่า เคยไม่ชอบตัวเองจากการที่ถูกสังคมกดดัน และเรื่องความอ้วนก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เธอกดดัน อย่างนั้นแล้ว เธอผิดไหม?<img src="https://media.thairath.co.th/image/cRmpwq35zXzBzy9vZatY22asuVxAnwKGzW4yx2QtQmIe9vA1.jpg" data-id="100678" data-url="https://media.thairath.co.th/image/cRmpwq35zXzBzy9vZatY22asuVxAnwKGzW4yx2QtQmIe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หากมองเฉพาะฉากเข็มตาชั่งที่ว่านี้ คงตีความได้ว่าเป็นการเหยียดความอ้วน แต่เมื่อมองการเล่าเรื่องโดยรวม เอ็มวีกำลังบอกกับเราว่าการ ‘กลัวอ้วน’ นั้นมีแต่ทำให้เกิดความทุกข์ไม่ใช่หรอกหรือ? อย่างที่เทเลอร์บอกว่า Anti-Hero เป็นเพลงหนึ่งที่เธอกล้าที่จะตรงไปตรงมาต่อความรู้สึกของตัวเอง การที่เธอเคยไม่อยากอ้วน และมองว่าการชั่งน้ำหนักแล้วไม่เป็นที่พึงพอใจสักทีเป็นปัญหา นั่นมันก็คือความเรียลในสังคมที่เธอกำลังจะสื่อว่าคนอ้วนถูกตัดสินมากมายเพียงใด แม้กระทั่งเธอที่เคยถูกสังคมตัดสินแบบนั้น ดังนั้นเมื่อมีการเรียกร้องจนทางเทเลอร์เองตัดสินใจตัดฉากดังกล่าวออก ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าสังคมเรากำลังเปราะบางกับคำบางคำเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่เพราะคนเราเปราะบางเกินไปเพียงอย่างเดียว หากเพราะมันเป็นคำที่ถูกให้ความหมายเชิงลบซ้ำแล้วซ้ำเล่ามานานเหลือเกินด้วย ตอนนี้ที่สังคมเราเริ่มมีการพูดถึงความหลากหลายทางรูปร่าง ที่เราควรโอบรับทุกหุ่นโดยปราศจากอคติ จึงไม่แปลกที่เธอจะถูกตั้งคำถามขึ้นมาในโมงยามนี้ ซึ่งหากดูเจตนาของตัวเอ็มวีแล้ว การใส่คำว่า Fat ลงไปบนตาช่างจึงไม่น่าจะเข้าข่าย Fat Shaming ได้ขนาดนั้นเลย แต่อย่างไรก็ตาม เราลองมาฟังความคิดเห็นของคนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้คำนี้ในเอ็มวีดูสักหน่อย<img src="https://media.thairath.co.th/image/cRmpwq35zXzBzy9vZatY2zks1a2hRup1V20qqlsuoc9p1V27hRBvMe9vA1.jpg" data-id="100678" data-url="https://media.thairath.co.th/image/cRmpwq35zXzBzy9vZatY2zks1a2hRup1V20qqlsuoc9p1V27hRBvMe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">“มิวสิกวิดีโอของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ตอนที่เธอมองลงไปที่ตาชั่งแล้วมันเขียนว่า ‘อ้วน’ เป็นวิธีการที่แย่มากในการอธิบายถึง body image struggles คนอ้วนไม่ได้ต้องการให้มาพูดย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนจะรู้สึกถึงฝันร้ายหากดูเหมือนพวกเรา” ชิรา โรเซนบลูธ นักบำบัดด้าน Eating disorder ทวีตข้อความนี้บนทวิตเตอร์ เธอยังกล่าวต่อว่า “มันไม่ยากเลยที่จะพูดว่า วันนี้ฉันกำลังดิ้นรนกับหุ่นของตัวเอง แทนที่จะพูดว่า ฉันอ้วน เป็นหมูที่น่ารังเกียจ” แง่หนึ่งเราเข้าใจคนที่รู้สึกทริกเกอร์กับคำว่า ‘อ้วน’ หลายคน เพราะพวกเขาอาจมีประสบการณ์ส่วนตัวที่แตกต่างกันไป แต่ก็ยังมีแฟนเพลงหลายคนออกมาพูดอีกแง่มุมว่า เทเลอร์เพียงแต่พูดจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เธอโดน และคนอ้วนที่โดนบูลลี่จนต้องดิ้นรนที่จะผอมในชีวิตจริงมันยังมีอยู่ เพราะเราว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้มแข็งมากพอที่จะรักตัวเอง หรือปล่อยผ่านคำครหาต่างๆ ไปได้ และการตัดสินใจลบฉากนั้นออกของเทเลอร์ นั่นก็แปลว่าเธอรับฟังความคิดเห็นอีกมุมหนึ่ง คำว่า ‘อ้วน’ จริงๆ แล้วคือคำคุณศัพท์อย่างหนึ่ง ที่ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการเหยียดหยาม หรือเป็นคำด่าก็ได้ มันเป็นเพียงคำที่ใช้อธิบายรูปร่างของคนคนหนึ่ง และมีอีกหลายคนมากที่แฮปปี้กับคำว่าอ้วน รวมถึงแฮปปี้กับความอ้วนของตัวเอง แต่อาจเป็นเพราะโลกเราเพิ่งจะตระหนักเรื่อง Beauty Standard ไม่นาน จึงทำให้บางคนยังใช้คำนี้มาลดทอนคุณค่าของคนอื่นอยู่ เราขอย้ำชัดอีกครั้งว่า คนเราอ้วนด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ผิด คนอยากผอมด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ผิด คนอยากจะหุ่นแบบไหนไม่มีผิด หากแต่คนที่น่าพิจารณาตัวเอง และเป็นบ่อเกิดของดราม่าทั้งหลายอย่างในวันนี้ คือคนที่มุ่งแต่วิจารณ์หุ่นคนอื่นมากกว่า ป.ล. ข้อมูลจาก WISESIGHT ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เผยให้เห็นว่า มีการค้นหา และพูดถึงคำว่า ‘taylor, taylorswift, midnights’ บนโลกออนไลน์ของไทยกว่า 6 พันครั้ง ช่องทางโซเชียลมีเดียที่พูดถึงมากที่สุดคือ Twitter กว่า 48% ตามมาด้วย Facebook ที่ 40% และเกิด Engagement กว่า 1 ล้านครั้งในระยะเวลาเกือบ 1 เดือน (จัดทำข้อมูลและวิเคราะห์โดยทีมงาน Mirror Thailand ผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE) ตัวเลขการเป็นที่สนใจสำหรับอัลบั้มใหม่ครั้งนี้ ทำให้นอกจากคนต่างชาติแล้ว ยังมีคนไทยหลายคนที่ถกเถียงกันถึงประเด็นดังกล่าวด้วยเช่นกัน อ้างอิง: <a href="https://www.yahoo.com/entertainment/taylor-swifts-anti-hero-music-020057024.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.yahoo.com/entertainment/taylor-swifts-anti-hero-music-020057024.html</a> <a href="https://twitter.com/theshirarose/status/1583500955818942470?s=20&t=QlDyJeKkH_66qhi5XuS14g" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://twitter.com/theshirarose/status/1583500955818942470?s=20&amp;t=QlDyJeKkH_66qhi5XuS14g</a>&nbsp;

สำหรับกรณีของนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง ฮันโซฮี และ ฮเยริ เรื่องส่วนตัวได้กลายเป็นประเด็นระดับประเทศทันที เมื่อตัวละครทั้งหมดในเรื่องล้วนแต่เป็นคนดังเบอร์ต้นของวงการ 

หรือสำหรับเกาหลีใต้ ยังไงคุณก็ต้องเป็น Good Girl จากกรณีของฮันโซฮีที่ถูกโจมตีอย่างหนัก แถมยังหลุดจากพรีเซนเตอร์ เพราะดราม่าเรื่องแฟนหนุ่ม

การที่บียอนเซ่ถูกวงการคันทรีปฏิเสธไม่ใช่เพียงเพราะเธอคือป๊อปสตาร์ แต่ยังเป็นเพราะว่าเธอเป็นคนดำ และเหตุที่วงการเพลงคันทรีในอเมริกาซีเรียสเรื่องสีผิวกันนัก จนเกิดแฮชแท็กที่ว่า #CountryMusicIsSoWhite ก็มีที่มาตั้งแต่ยุค 20s กันเลยทีเดียว

Beyonce กับการกลับมาทำเพลงคันทรีอีกครั้ง ในอัลบั้ม Cowboy Carter ที่แม้จะมีดราม่าแต่ก็ตอกย้ำว่าเธอจริงจังกับมัน

การปรากฏตัวในหน้าสื่อของ ซิดนีย์ สวีนีย์ (Sydney Sweeney) มักมาพร้อมกับพาดหัว 'เซ็กซี่' อยู่เกือบตลอดเวลา ทำให้เธอถูกมองเป็นนักแสดงสาวเซ็กซี่ที่รับแต่บทที่ต้องเปลื้องเนื้อเปลื้องหนัง ทั้งที่จริงเธอยังมีอีกหลายๆ มิติที่น่าจดจำ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Music

เอ็มวี Anti-Hero จาก Taylor Swift เข้าข่าย Fat Shaming หรือเป็นเพียงการ ถ่ายทอดประสบการณ์ที่เราต่างเคยพบเจอ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS