ในต่างประเทศเองการล่วงละเมิดและการคุกคามทางเพศในแวดวงศิลปะก็ไม่ใช่เรื่องใหม่และกำลังตื่นตัวไม่น้อยไปกว่าบ้านเรา อย่างกลุ่มที่มีชื่อว่า ‘The Guerrilla Girls’ กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ขอลุกขึ้นมาสวมชุดกอลิลลา ทำตัวบ้าหลุดโลก แต่ภายใต้ชุดนั้นคือการเป็นหูเป็นตาให้กับวงการศิลปะ กระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ศิลปิน คิวเรเตอร์ นักวิจารณ์ จนถึงมิวเซียม แกลเลอรี และบรรดานายทุน ตื่นรู้ต่อ ‘การมีอยู่ของผู้หญิง’ ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

The Guerrilla Girls กลุ่มนักเคลื่อนไหวในชุดกอริลลาที่พร้อมปั่นและรันความเท่าเทียมในวงการศิลปะมาตั้งแต่ยุค 80s

หากยังจำกันได้ เมื่อปีที่ผ่านมาการล่วงละเมิดและการคุกคามทางเพศในวงการคนทำงานศิลปะบ้านเราเหมือนจะค่อยๆ ถูกชำแหละออกมาเรื่อยๆ ทีละเคส สะท้อนให้เห็นความจริงที่ว่ายังคงมีคนตกเป็น ‘เหยื่อ’ อยู่เสมอ และยังคงมี ‘นักล่า’ ที่ลอยนวลแสวงหาประโยชน์อยู่เสมอเช่นกัน&nbsp;ในต่างประเทศเองการล่วงละเมิดและการคุกคามทางเพศในแวดวงศิลปะก็ไม่ใช่เรื่องใหม่และกำลังตื่นตัวไม่น้อยไปกว่าบ้านเรา อย่างกลุ่มที่มีชื่อว่า ‘The Guerrilla Girls’ กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ขอลุกขึ้นมาสวมชุดกอลิลลา ทำตัวบ้าหลุดโลก แต่ภายใต้ชุดนั้นคือการเป็นหูเป็นตาให้กับวงการศิลปะ กระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ศิลปิน คิวเรเตอร์ นักวิจารณ์ จนถึงมิวเซียม แกลเลอรี และบรรดานายทุน ตื่นรู้ต่อ ‘การมีอยู่ของผู้หญิง’ ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/r0liIdjzleZds1a2hpX9J7qrVHJU2p1V264JLskbBiPbxDzzp1V2se9vA1.jpg" data-id="101553" data-url="https://media.thairath.co.th/image/r0liIdjzleZds1a2hpX9J7qrVHJU2p1V264JLskbBiPbxDzzp1V2se9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">จริงๆ แล้ว The Guerrilla Girls คือกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ทำงานกับประเด็นทางสังคมและการเมือง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับผู้หญิงในแวดวงศิลปะ มาตั้งแต่ปี 1985 ไม่ว่าจะเป็นการเหยียดเพศ การกีดกันทางเชื้อชาติและสีผิว การคุกคามทางเพศ รวมถึงการคอร์รัปชันและการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จของนายทุน ผ่านการจัดนิทรรศการรวมถึงงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Conceptual Art &nbsp;และ Street Art ล้อไปกับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นใน Pop Culture และมีผลงานจัดแสดง (หรือเรียกให้ถูกคือปั่น) ไปทั่วโลกตั้งแต่งานในระดับ Street Art จนถึง Tate Modern ลอนดอน และ Art Basel ฮ่องกง เพื่อต้องการกระตุ้นให้คนทั้งในและนอกวงการศิลปะเกิดการตื่นรู้ต่อประเด็นทางสังคมต่างๆ และช่วยให้เสียงของคนตัวเล็กๆ ที่ทำงานในโลกศิลปะเหล่านั้นถูกได้ยิน&nbsp;“จุดเริ่มต้นของพวกเราในตอนแรกคือความตั้งใจว่าจะต่อสู้กับการเหยียดเพศและการเหยียดผิวในวงการศิลปะ รวมไปถึงพวกกลุ่มนายทุน พวกคนรวยที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จและมีอิทธิพลต่อวงการศิลปะ ซึ่งเราพบว่ามันมีทั้งความลำเอียงและข้อจำกัดเยอะแยะมากมายไปหมด” The Guerrilla Girls กล่าวงานของกลุ่ม The Guerrilla Girls จดจำได้ไม่ยาก เพราะมันทั้งดิบ จิกกัด ปนตลกร้าย ด้วยการหยิบประเด็นสังคมนำมาบดขยี้อย่างเจ็บแสบผ่านผลงานศิลปะล้อเลียน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับผู้หญิง อย่างครั้งหนึ่งที่พวกเขาหยิบกรณีการคุกคามทางเพศของ ชัค โคลส (Chuck Close) ศิลปินและช่างภาพชาวอเมริกัน ผู้ถูกเปิดเผยว่าล่วงละเมิดทางเพศ เจ้าของภาพวาดพอร์เทรตอันโด่งดังของอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน (Bill Clinton) และนั่นทำให้ภาพพอร์ตเทรต บิล คลินตัน ของโคลสถูกปลดออกจาก National Portrait Gallery ในวอชิงตัน ดี.ซี. ในเวลาต่อมา ซึ่งกลุ่ม The Guerrilla Girls ก็ได้วิพากษ์อย่างเจ็บแสบถึงผลงานชิ้นนี้ว่าเป็นผลงานของ ‘นักล่าท่านหนึ่งวาดภาพนักล่าอีกท่านหนึ่ง’ พร้อมกับเคลื่อนไหวให้มิวเซียมและแกลเลอรีจริงจังกับมูฟเมนต์ #Metoo และใส่ใจอย่างจริงใจถึงปัญหาการคุกคามทางเพศในวงการศิลปะมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งพวกเขาได้สร้างผลงานกวนๆ ชื่อว่า ‘คำบรรยายงานศิลปะ’ (3 WAYS TO WRITE A MUSEUM WALL LABEL WHEN THE ARTIST IS A SEXUAL PREDATOR) ว่าด้วยคำแนะนำสำหรับบรรดามิวเซียมและแกลเลอรีที่กำลังรู้สึกย้อนแย้งว่าจะจัดแสดงผลงานของศิลปินที่ชอบล่วงละเมิดทางเพศอย่างไรดี&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/r0liIdjzleZds1a2hpX9J7qrVD4nIdN3bp1V2YU3YfRA3puJkoe9vA1.jpg" data-id="101553" data-url="https://media.thairath.co.th/image/r0liIdjzleZds1a2hpX9J7qrVD4nIdN3bp1V2YU3YfRA3puJkoe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ไม่เพียงแค่ประเด็นการคุกคามทางเพศที่กลุ่ม The Guerrilla Girls หยิบยกมากระตุ้นสังคม ประเด็นการเหยียดเพศและสีผิวในวงการศิลปะก็เป็นเรื่องใหญ่ที่พวกเขาสนใจไม่น้อยไปกว่ากันและทำงานกับเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่มยุคแรกๆ จากการที่ The Museum of Modern Art จัดแสดงนิทรรศการครั้งใหญ่ในปี 1985 ชื่อว่า An International Survey of Painting and Sculpture ซึ่งควรจะจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยชิ้นสำคัญของโลกจากศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นหลากหลาย แต่งานครั้งนั้นกลับเรียก Controversy ให้กับวงการศิลปะ เมื่อมิวเซียมได้คัดเลือกศิลปิน 169 คน แต่ว่าในจำนวนนั้นมีศิลปินหญิงที่ถูกคัดเลือกเพียงแค่ 13 คนเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่น้อยกว่า 8% เสียอีก แถมยังแทบจะไม่มีชื่อศิลปินผิวสีรวมอยู่ในนั้นอีกด้วย และนั่นจุดประกายให้กลุ่ม The Guerrilla Girls เดือดดาลเหลือจะทน พวกเขาก่อตั้งกลุ่มและทำการประท้วงด้วยผลงานชื่อว่า ‘Do women have to be naked to get into the Met Museum?’ (ผู้หญิงต้องแก้ผ้าไหม ถึงจะได้เข้าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Met) เพื่อตั้งคำถามแบบจิกกัดว่าจริงๆ แล้วมีแค่ศิลปินชาย-ผิวขาวเท่านั้นหรือเปล่าที่มีสิทธิ์ในการแสดงงานระดับโลก และศิลปินหญิงกับคนผิวสีล่ะอยู่ตรงไหนในโลกของศิลปะนอกจากนั้นกลุ่ม The Guerrilla Girls ยังมีผลงานในปี 1989 ที่ทำต่อเนื่องมาจนถึงปี 2022 ชื่อ ‘จรรยาบรรณของมิวเซียม’ (Museum’s code of ethics) ที่ไล่ Bom ไปทั่วสถาบันศิลปะและมิวเซียม เพื่อจิกกัดระบบอันไม่เป็นธรรมต่างๆ ในวงการศิลปะ พร้อมกับเรียกร้องให้วงการศิลปะมองเห็นคุณค่าของศิลปินที่เป็นผู้หญิงและศิลปินผิวสีมากกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมทั้งเรียกร้องให้บรรดาแรงงานและคนทำงานในวงการศิลปะที่แม้จะไม่ใช่ศิลปิน ได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรมด้วย&nbsp;ทุกวันนี้กลุ่ม The Guerrilla Girls ก็ยังคงเคลื่อนไหวไม่พักภายใต้ประเด็นสังคมที่ทำให้พวกเขาอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ซึ่งนักดูงานศิลปะคนหนึ่งเคยบอกว่าทุกครั้งที่เห็นงานของกลุ่ม The Guerrilla Girls เขารู้สึกว่ามันเชื่อมโยงกับคนดูได้ไม่ยาก เพราะสิ่งที่ The Guerrilla Girls หยิบมาพูดไม่ใช่เรื่องของคนอื่น แต่เป็นเรื่องของทุกคนในสังคมอ้างอิง&nbsp;<a href="https://news.artnet.com/art-world/weve-been-fighting-the-death-hold-wealthy-people-have-on-art-watch-the-guerrilla-girls-reflect-on-their-radical-origin-story-2339808" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://news.artnet.com/art-world/weve-been-fighting-the-death-hold-wealthy-people-have-on-art-watch-the-guerrilla-girls-reflect-on-their-radical-origin-story-2339808</a><a href="https://www.dazeddigital.com/art-photography/article/41597/1/the-guerrilla-girls-want-to-help-museums-respond-to-me-too" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dazeddigital.com/art-photography/article/41597/1/the-guerrilla-girls-want-to-help-museums-respond-to-me-too</a>

แนวคิดปิตาธิปไตยที่ฝังรากลึกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงเกาหลีใต้หลายๆ คนเริ่มตัดสินใจใช้ชีวิตแบบ 4 No นั่นคือ ไม่มีเซ็กซ์ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน และไม่มีลูก ซึ่งหลายคนมองว่าสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการเกิดที่ต่ำที่สุดในโลกของเกาหลีใต้

ไม่มีเซ็กซ์ ไม่มีแฟน ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก : วิถีชีวิตแบบ 4 No ของผู้หญิงเกาหลีใต้ ท่ามกลางผู้ชายที่เกลียดเฟมินิสต์

ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ในพื้นที่อย่างสถาบันการศึกษาซึ่งควรจะเปิดกว้างต่อการแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรีของคนรุ่นใหม่ ก็อาจกำลังเกิดประเด็นที่สร้างความขัดแย้งไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อแถลงการณ์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัย USC ในแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ประกาศยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาประจำปีนี้ เนื่องจากตัวแทนนักศึกษาปริญญาตรีผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่าย ‘สนับสนุนปาเลสไตน์’ (Pro-Palestinian)

มหาวิทยาลัย Southern California 
ยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษา เมื่อตัวแทนนักศึกษาที่จะได้ขึ้นเวที ถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์

‘PANK’ หรือ ‘Professional Aunt, No Kids’ ผู้หญิงที่มีสถานะการเงินคล่องตัว ดูแลตัวเองได้ ไม่ได้มองว่าจุดสูงสุดของชีวิตคือการแต่งงานมีลูก เพียงแค่อยากเป็นคุณน้ามืออาชีพ คอยดูแลหลานๆ ที่เธอรัก

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Movement

The Guerrilla Girls กลุ่มนักเคลื่อนไหวในชุดกอริลลาที่พร้อมปั่นและรันความเท่าเทียมในวงการศิลปะมาตั้งแต่ยุค 80s

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS