เป็นประจำทุกปี ที่นิตยสาร TIME จะจัดทำลิสต์ 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก และปีนี้มีผู้หญิงเชื้อชาติเมียนมาถึง 3 คน ที่ได้รับการยกย่องไว้ในลิสต์นี้


สองนักสู้เพื่อประชาธิปไตย กับ หนึ่งวิศวกร NASA  3 ผู้หญิงเมียนมา ติดหนึ่งใน 100  ผู้ทรงอิทธิพลของโลกโดยนิตยสาร TIME

เป็นประจำทุกปี ที่นิตยสาร TIME จะจัดทำลิสต์ 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก และเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยเชิดชูจุดยืนหรือการต่อสู้ของพวกเขาทั้งหลาย และในปี 2021 นี้ นับว่าน่ายินดีสำหรับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่ปีนี้มีผู้หญิงเชื้อชาติเมียนมาถึง 3 คน ที่ได้รับการยกย่องไว้ในลิสต์นี้ Esther Ze Naw Bamvo จากรัฐคะฉิ่น และ Ei Thinzar Maung จากรัฐฉาน คือสองแกนนำคนรุ่นใหม่ในการต่อต้านรัฐบาลทหาร และเรียกร้องประชาธิปไตยให้เมียนมา โดยพวกเธอเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ลุกขึ้นสู้หลังมีรัฐประหาร&nbsp; Esther Naw ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 ณ ตอนนี้เป็นแกนนำจากกลุ่ม ‘เครือข่ายสันติภาพแห่งคะฉิ่น’ และก่อนหน้านั้นเธอก็ยืนหยัดเรียกร้องสิทธิให้กับชาวโรฮีนจา&nbsp; Ei Thinzar ก็ต่อสู้มาช้านานเช่นกัน โดยเธอตั้งมั่นกับประเด็นกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา ที่มักถูกกีดกันให้เป็นเพียงชนกลุ่มน้อย และได้ชื่อว่าเป็นปลัดกระทรวงความเป็นหนึ่งเดียวของชาติที่อายุน้อยที่สุด (กระทรวงนี้ก่อตั้งขึ้นโดยสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกรัฐบาลทหารขับไล่)&nbsp; “ความกล้าแกร่งของผู้หญิงเมียนมา ถูกกดทับโดยกองทัพมาช้านาน ดังนั้นเจเนอเรชั่นใหม่ที่กล้าหาญ จึงได้จุดไฟหวังให้กับพวกเราทุกคน, ขอบคุณเธอทั้งคู่และคนอื่นๆ ที่สู้ด้วยกันมา” TIME กล่าวถึงพวกเธอทั้งคู่ ขณะที่หญิงเมียนมาอีกคนที่ได้รับการเชิดชูคือ MiMi Aung วิศวกรในองค์การนาซา ซึ่งย้ายจากเมียนมาไปเรียนต่อที่อเมริกาตั้งแต่อายุ 16 ปี ปัจจุบันเธอเป็นผู้ดูแลโปรเจกต์เฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กชื่อ Ingenuity ที่ใช้ในการสำรวจพื้นผิวดาวอังคาร โดยมันจะบินเหนือพื้นผิวในระยะ 3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เห็นภาพได้ชัดเจน ทั้งยังสามารถควบคุมได้จากพื้นโลก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ทำให้การสำรวจดาวอังคารโดยละเอียดและหาความเป็นไปได้ต่างๆ ใกล้ความจริงมากขึ้น&nbsp; จะเห็นได้ว่านิตยสาร TIME พิจารณารายชื่อบุคคลอย่างรอบด้าน และเฉลิมฉลองให้ทั้งความเก่งกาจ กล้าหาญ และอุดมการณ์ของผู้คน และคงต้องไม่ลืมว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้ง รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และทนายอานนท์ นำภา ก็อยู่ในลิสต์ TIME 100 NEXT 100 หรือบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงอนาคตในปี 2021 ด้วยเช่นกัน จึงน่าจะช่วยให้เห็นภาพชัดว่าประเด็นการเคลื่อนไหวในบ้านเราได้ปรากฏต่อสายตาชาวโลกอย่างไรบ้าง&nbsp;

ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ในพื้นที่อย่างสถาบันการศึกษาซึ่งควรจะเปิดกว้างต่อการแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรีของคนรุ่นใหม่ ก็อาจกำลังเกิดประเด็นที่สร้างความขัดแย้งไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อแถลงการณ์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัย USC ในแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ประกาศยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาประจำปีนี้ เนื่องจากตัวแทนนักศึกษาปริญญาตรีผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่าย ‘สนับสนุนปาเลสไตน์’ (Pro-Palestinian)

มหาวิทยาลัย Southern California 
ยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษา เมื่อตัวแทนนักศึกษาที่จะได้ขึ้นเวที ถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์

ผู้นำสูงสุดของตาลีบันก็ได้ประกาศว่า จะกลับมาบังคับใช้โทษ ‘ปาหิน’ หรือ ‘เฆี่ยนตี’ ผู้หญิงในที่สาธารณะจนตาย หากจับได้ว่าพวกเธอ ‘คบชู้’ ซึ่งเป็นโทษที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง

“ผู้หญิงต้องการ ‘สิทธิ’ ที่พวกชาวตะวันตกพูดถึงกันจริงหรือ?” ผู้นำสูงสุดของตาลีบันกล่าว หลังประกาศใช้โทษ ‘ปาหิน’ และ ‘เฆี่ยนตี’ ผู้หญิงที่คบชู้จนตายในที่สาธารณะ

สังคมตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายใหม่ของสก็อตแลนด์กับนักเขียนคนดังอย่าง เจ.เค.โรว์ลิง เมื่อเร็วๆ นี้ตำรวจสกอตแลนด์ออกมาบอกว่า กรณีความเห็นของโรว์ลิงนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่จะ ‘ไม่เข้าข่าย’ อาชญากรรม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

สองนักสู้เพื่อประชาธิปไตย กับ หนึ่งวิศวกร NASA 3 ผู้หญิงเมียนมา ติดหนึ่งใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลกโดยนิตยสาร TIME

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

SERENE

RELATED

HOT TOPICS