ทุกครั้งที่ผู้ชายดูบอล ผู้หญิงมีโอกาสกลายเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว

He's Coming Home แคมเปญจากอังกฤษ  ต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวช่วงบอลโลก เมื่อผู้ชายส่วนหนึ่งกลับบ้านมาทำร้ายแฟนหลังดูบอล

ข้อความ He's Coming Home หรือ เขากำลังกลับบ้าน ถูกวางทับธงชาติอังกฤษขนาดใหญ่หน้าบ้านหลังหนึ่งบนวิดีโอความยาว 1.11 นาที ท่ามกลางเสียงเชียร์บอลดังลั่นจากเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน บ้านหลังนี้กลับเงียบสงัด ก่อนข้อความสุดท้ายจะขึ้นมาว่า “ผู้หญิง 1.6 ล้านคนที่ประสบความรุนแรงในครอบครัวต้องการความช่วยเหลือจากคุณเช่นกัน” เพราะทุกครั้งที่ผู้ชายดูบอล ผู้หญิงมีโอกาสกลายเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ไม่ว่าทีมที่เชียร์จะชนะ หรือแพ้ก็ตาม เรากำลังพูดถึงแคมเปญ Women’s Aid’s Come Together to End Domestic Abuse จาก Women's Aid องค์กรการกุศลสัญชาติอังกฤษผู้ช่วยเหลือสตรีที่เป็นเหยื่อความรุนแรง ที่ปล่อยออกมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2022 ซึ่งเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการยุติความรุนแรงทางครอบครัวที่เกิดขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก (World Cup) ที่เป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ หลายคนอาจจะงงว่า การดูบอลของผู้ชายส่งผลต่อความรุนแรงในสตรีอย่างไร ถ้าเป็นในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลนั้นไม่เกี่ยวข้องแน่ๆ แต่ปัจจัยต่างๆ ที่แฟนบอลทำในวันเชียร์บอลอย่างลุ้นระทึกนั้นเกี่ยวเต็มๆ ทั้งการกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้น อารมณ์ที่พุ่งสูงจากการลุ้นแมทช์ใหญ่ๆ เหล่านี้นำไปสู่ความรุนแรงในความครอบครัวที่ทั้งถี่ และรุนแรง เรายกตัวอย่างการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Research in Crime and Delinquency ซึ่งพบแนวโน้มความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการดูบอลว่า หากทีมชาติอังกฤษชนะ หรือเสมอ ความเสี่ยงของความรุนแรงในครอบครัวจะมีถึง 26% และเพิ่มขึ้นไปแตะ 38% หากทีมชาติแพ้ นอกจากนี้ส่วนหนึ่งของแคมเปญ Women’s Aid ได้วัดทัศนคติของสาธารณชนในงานวิจัยล่าสุดขององค์กร พบว่า 1 ใน 4 (24%) ของผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรเชื่อว่ามีตัวอย่างของการเป็นเรื่องยอมรับได้ที่จะเชียร์บอลด้วยการโห่ร้องด้วยถ้อยคำหยาบคายเกี่ยวกับผู้หญิง ซึ่งเหตุผลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่พวกเขาทำ เพราะมองเป็นมุกตลก (12%) “ขณะที่ความรุนแรงในครอบครัวไม่ได้เกิดจากฟุตบอล แต่เราทราบกันดีว่าความรุนแรงที่มีอยู่สามารถรุนแรงขึ้นไปอีก หรือเกิดขึ้นถี่ระหว่างหลายๆ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ เราขอให้ทุกคนช่วยแชร์โปสเตอร์ และโฆษณาของเราในช่วงเวลาสำคัญนี้ด้วยค่ะ” ฟาราห์ นาเซียร์ (Farah Nazeer) ผู้บริหารระดับสูงของ Women’s Aid กล่าว เธอยังเสริมถึงระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นซึ่งมีตั้งแต่มุกเหยียดเพศ ที่หลายครั้งผู้ชายบางคนก็อ้างว่า “แค่หยอกเล่น” ไปจนถึงอาชญากรรม และการฆาตกรรม “มุกเหยียดเพศทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ผู้หญิงสามารถโดนดูถูก โดนควบคุม โดนทำอันตราย และโดนทารุณกรรมได้ เพื่อช่วยจบปัญหาความรุนแรงในครอบครัว เราต้องจัดการกับการเหยียดเพศ และการเกลียดชังผู้หญิง” นาเซียร์กล่าว ที่ผ่านมา Women’s Aid เคยเปิดตัวแคมเปญ Football United Against Domestic Violence แล้วในปี 2014 และตั้งแต่นั้นมาก็ทำงานร่วมกับคอมมูนิตี้ฟุตบอล ทั้งจากผู้เล่น สโมสร และแฟนบอล เพื่อร่วมกันต่อต้านพฤติกรรมเหยียดเพศ และทัศนคติเกลียดชังผู้หญิง ซึ่งเป็นตัวการสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงต่อผู้หญิง รับชมแคมเปญโฆษณา: <a href="https://www.youtube.com/watch?v=8BTCSYFmXvU" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=8BTCSYFmXvU</a>&nbsp; อ้างอิง: <a href="https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/0022427813494843" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://journals.sagepub.com/doi/10.1177/0022427813494843</a> <a href="https://www.womensaid.org.uk/womens-aid-is-asking-the-public-to-raise-awareness-of-domestic-abuse-services-during-the-world-cup-to-help-survivors/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.womensaid.org.uk/womens-aid-is-asking-the-public-to-raise-awareness-of-domestic-abuse-services-during-the-world-cup-to-help-survivors/</a> &nbsp;

ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ในพื้นที่อย่างสถาบันการศึกษาซึ่งควรจะเปิดกว้างต่อการแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรีของคนรุ่นใหม่ ก็อาจกำลังเกิดประเด็นที่สร้างความขัดแย้งไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อแถลงการณ์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัย USC ในแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ประกาศยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาประจำปีนี้ เนื่องจากตัวแทนนักศึกษาปริญญาตรีผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่าย ‘สนับสนุนปาเลสไตน์’ (Pro-Palestinian)

มหาวิทยาลัย Southern California 
ยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษา เมื่อตัวแทนนักศึกษาที่จะได้ขึ้นเวที ถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์

เพราะการสร้างความเปลี่ยนแปลง ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่เสมอไป การขับเคลื่อนของ ‘เฟมินิสม์’ ก็เช่นเดียวกัน ชวนรู้จัก ‘Microfeminism’ แนวทางการต่อสู้กับอคติทางเพศด้วยการกระทำเล็กๆ ในชีวิตประจำวันแบบเนียนๆ มากกว่าการแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา

Microfeminism การต่อสู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ที่แม้ไม่ได้ยิ่งใหญ่ แต่ใช่ว่าไม่สร้างความเปลี่ยนแปลง

นักศึกษาหญิง ปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงมือปาดคอและแทงแฟนหนุ่มนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยมีดปอกผลไม้บริเวณหอพัก จนบาดเจ็บสาหัส โดยทำไปเพราะโดนบอกเลิก และจับได้ว่าแฟนนอกใจ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS