‘ครูตี๋ สอนจีบสาว’ ที่ทำคอนเทนต์ “วิธีคบซ้อนผู้หญิงมากกว่า 2 คน (แบบผู้หญิงต่อรองไม่ได้)” ที่มีทั้งชาวเน็ต และเหล่าอินฟลูฯ หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านคลิปฯ ดังกล่าว 

‘การแบ่งเลเวลคน’ วิธีคิดอันตรายที่ทำให้อำนาจของคนในความสัมพันธ์ไม่เท่ากัน ซึ่งไม่เพียงแต่เอื้อต่อการคบซ้อน แต่ยังอาจนำไปสู่ความรุนแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

หนึ่งประเด็นน่าเพลียใจ ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอิหยังวะสุดๆ คือการทำคอนเทนต์ในรูปแบบคลิปฯ ไลฟ์โค้ช กูรูความรักแนวคติสอนใจชาย ของติ๊กต่อกเกอร์ชายคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า ‘ครูตี๋ สอนจีบสาว’ ที่ทำคอนเทนต์ตั้งแต่ “ขั้นตอนการเทรนผู้หญิง ยอมให้คุณมีบ้านที่ 2” “วิธีสูบเงินและปอกลอกผู้หญิงอย่างถูกต้อง” “ต้องการแย่งแฟนของคนอื่น ให้ทำตามนี้” รวมไปถึงคลิปฯ ที่กำลังเป็นที่พูดถึง และถูกวิจารณ์อยู่ ณ ขณะนี้คือ “วิธีคบซ้อนผู้หญิงมากกว่า 2 คน (แบบผู้หญิงต่อรองไม่ได้)” ที่มีทั้งชาวเน็ต และเหล่าอินฟลูฯ หลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านคลิปฯ ดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นการสนับสนุนให้ผู้ชายนอกใจคนรัก สนับสนุนการทำลายความสัมพันธ์ของคนที่แต่งงานแล้ว หลายคนยังวิจารณ์ถึงประเด็นในการ gaslight หรือปั่นประสาทให้อีกฝ่ายจำยอมในความสัมพันธ์ ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ ผู้กระทำไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายอย่างเดียว แต่หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิง หรือเพศไหนๆ ใช้วิธีการ gaslight ในความสัมพันธ์เหมือนกัน ก็ล้วนท็อกซิก และเป็นอันตรายด้วยกันทั้งนั้นไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่เขาสอนในคลิปฯ ยังมีเรื่องของการพยายามแบ่งเลเวลของคนใน<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ความสัมพันธ์</a> ทั้งที่ในยุคนี้หลายฝ่ายพยายามสื่อสารกันอย่างหนักว่า ทุกฝ่ายในความสัมพันธ์ควรมีความเท่าเทียมกัน ไม่ควรมีใครเหนือกว่าใคร ไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม แต่ไลฟ์โค้ชคนนี้กลับพยายามสอนว่าเราควรแบ่ง ‘เลเวล’ คนที่คบกัน เพื่อสร้างฐานอำนาจที่ต่างกัน และหากจะเลือกผู้หญิงสักคนเข้าสู่วงจรการคบซ้อน ผู้ชายก็ควรเลือกผู้หญิงที่ ‘เลเวลต่ำ’ เพื่อให้ง่ายต่อการ ‘กล่อม’ ให้จนมุม อย่างที่เขาได้กล่าวว่า“เทคนิค low level กับเทคนิคการเก็บสต๊อก ถ้าเราเอาผู้หญิงที่ตึงมือเรา สวยโดนใจมากเลย อย่างนี้เราเอาไม่อยู่ ไปมีเพิ่ม ผู้หญิงคนนี้ก็ไป (ดังนั้น) เปลี่ยนใหม่เป็น เราเจ๋งใช่ไหม กดระดับเลเวลผู้หญิงลงนิดนึง ไม่ใช่ไปกดความเป็นมนุษย์ของเธอนะ เลือกผู้หญิงที่สวยน้อยลงหน่อย เลเวลน้อยลงหน่อย มีตัวเลือกน้อยลงหน่อย แล้วเธอเห็นว่าเราเจ๋งที่สุดเลยใช่ปะ เพราะว่าในชีวิตเธอ สมมติว่าเลเวลนั้น ครูตี๋ไม่ตัดสินว่าเลเวลไหน เพราะถ้าเจ้าของบริษัทโหดๆ บางทีผู้หญิงระดับสิบล้าน เจ้าของกิจการก็เวลต่ำ สวยระดับไอดอลก็ยังเวลต่ำสำหรับเขาอยู่ดี…”และ “เรา (จะ) เป็นผู้ชายที่เหนือที่สุด โคตรเหนือของเธอ เหนือแบบชีวิตนี้เธอหาไม่ได้แล้ว เข้าไปหยอดเธอ เข้าไปจีบเธอ 3-4 คนเลย ทุกคนจะรู้ว่า (เรา) มีหมด” และย้ำว่า เมื่อผู้หญิงเลเวลต่ำได้ผู้ชายเจ๋งๆ ไป ทุกคนก็จะสามารถรับได้เอง แม้จะคบซ้อนอีกหลายคน “พอเป็นแบบนี้ปุ๊บ แค่ให้เจ๋งกว่าผู้หญิงใช้ได้แล้ว เราก็มีคนอื่นได้ แบบต่อรอง มันตรงๆ กันแบบนี้เลย”จากที่เขาพูด แม้จะมีการออกตัวว่าการแบ่งเลเวลที่ว่านี้ “ไม่ใช่ไปกดความเป็นมนุษย์ของเธอนะ” แต่คำพูดที่เหลือก็ย้อนแย้งกับสิ่งที่ออกตัวมาทั้งหมด เพราะการจัดลำดับว่าใครอยู่สูง อยู่ต่ำ ด้วยหน้าตา หรือฐานะทางการเงิน ก็ไม่ต่างอะไรจากการมองที่เปลือกนอกโดยไม่พิจารณาความเป็นมนุษย์ และปัญหาสำคัญของการแบ่งเลเวลนี้ก็คือการมองคนในความสัมพันธ์ว่ามีอำนาจที่ไม่เท่ากัน ซึ่งหากอีกฝ่ายจะกระทำต่ออีกฝ่ายอย่างไร ด้วยท่าทีแบบไหน ก็กลายเป็นสิ่งที่ทำได้ นี่จึงไม่ต่างจากการละเลยความเป็นมนุษย์ และไม่คำนึงถึงความรู้สึกอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง ซึ่งที่บอกว่าเป็นปัญหาสำคัญเพราะพื้นฐานความคิดแบบนี้ ไม่เพียงแต่นำไปสู่การคบซ้อน หรือการมีคนอื่นแบบซึ่งๆ หน้า แต่ยังสามารถนำไปสู่การกระทำความรุนแรงต่ออีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ เพียงเพราะมองว่าอีกฝ่ายมีอำนาจต่อรองที่น้อยกว่าตัวเองตั้งแต่ต้นที่น่าเป็นกังวล คือแม้จะมีคนออกมาวิจารณ์เขาอย่างหนัก แต่เขาก็ไม่ได้มองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นปัญหา แถมยังมีคนกดไลค์ กดเซฟเป็นจำนวนมาก และไม่แน่ว่าอาจมีคนดีเอ็มไปหลังไมค์เพื่อขอคำปรึกษาเขาโดยตรงอีกด้วยซ้ำ ดังนั้น คงมีคนจำนวนหนึ่งที่เชื่อในสิ่งที่เขาสอน หรือเอาวิธีการของเขาไปทำกับคนรักของตัวเอง หรือเอาไปใช้ในการวางแผนจีบใครสักคนในอนาคต เพราะต้องยอมรับว่า ปัจจุบันผู้คนเข้าถึงสื่อได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว และบางคนก็อาจคล้อยตามสื่อเหล่านั้นที่มีแนวคิดมีปัญหาเพื่อไปทำตามอย่างผิดๆ จนเกิดความรุนแรงที่ยากเกินควบคุมตามมาในสังคม&nbsp;แม้สิ่งที่ไลฟ์โค้ชคนนี้พูด แง่หนึ่งจะสะท้อนถึงความจริงที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม แทบจะเป็นเรื่องที่เราเห็นได้เรื่อยๆ จากข่าวต่างๆ และหลายคนอาจมองว่านี่คือธรรมชาติของมนุษย์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีคิดแบบนี้ทำให้หลายคนต้องตกอยู่ในความทุกข์ในความสัมพันธ์ที่ท็อกซิก เราจึงต้องต้องยอมรับว่านี่เป็นพื้นที่ส่งต่อความคิดที่อันตราย และหลายครั้งก็เป็นพื้นฐานของวิถีชายเป็นใหญ่ที่ยังฝังราก และกระจายตัวอยู่ในสังคมไทย เพราะหากจะว่ากันด้วยความถี่ เรามักจะเห็นเพศชายที่สมาทานแนวคิดแบบนี้กันมากกว่าทั้งที่จริงเรื่องพื้นฐานเลยก็คือ ถ้าเราจะรัก หรือมีความสัมพันธ์กับใครสักคน เราไม่ควรมองอีกฝ่ายด้อยกว่าตั้งแต่ต้น ไม่ควรเชื่อว่าเราสามารถทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดจากความเห็นแก่ตัวของเรา และการประคองความสัมพันธ์ให้ทุกฝ่ายมีความสุขได้จริง ทุกคนในความสัมพันธ์ควรจะ ‘เท่าเทียม’ ไม่ควรมีใครถูกลดทอนคุณค่าโดยคนที่ขึ้นชื่อว่า ‘คนรัก’ ซึ่งหากใครกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ท็อกซิกอยู่ หรือกำลังสงสัยว่าตัวเองถูกปั่นหัวในความสัมพันธ์อยู่หรือเปล่า เราขอส่งกำลังใจ และอยากบอกคุณว่าคุณมีคุณค่าในตัวเองเสมอ แม้จะไม่มีเขา คุณก็ยังมีคุณค่า

ในต่างประเทศเองการล่วงละเมิดและการคุกคามทางเพศในแวดวงศิลปะก็ไม่ใช่เรื่องใหม่และกำลังตื่นตัวไม่น้อยไปกว่าบ้านเรา อย่างกลุ่มที่มีชื่อว่า ‘The Guerrilla Girls’ กลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ขอลุกขึ้นมาสวมชุดกอลิลลา ทำตัวบ้าหลุดโลก แต่ภายใต้ชุดนั้นคือการเป็นหูเป็นตาให้กับวงการศิลปะ กระตุ้นให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ศิลปิน คิวเรเตอร์ นักวิจารณ์ จนถึงมิวเซียม แกลเลอรี และบรรดานายทุน ตื่นรู้ต่อ ‘การมีอยู่ของผู้หญิง’ ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

The Guerrilla Girls กลุ่มนักเคลื่อนไหวในชุดกอริลลาที่พร้อมปั่นและรันความเท่าเทียมในวงการศิลปะมาตั้งแต่ยุค 80s

‘โอรีนี ไคปารา’ (Oriini Kaipara) คือผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกในโลกที่มีรอยสักอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเมารีที่เรียกว่า ‘โมโก’ หรือ ‘Moko Kauae’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเมารี

Oriini Kaipara ผู้ประกาศข่าวจากชนเผ่าเมารี ที่พร้อมยืนหยัดเพื่ออัตลักษณ์ชนเผ่า แม้ถูกวิจารณ์เรื่องรอยสัก Moko บนใบหน้าว่า ‘ดูไม่เหมาะสม’ 

ในประเทศจีนมีวัฒนธรรมย่อมๆ ของหนุ่มสาว ที่จัด ‘ปาร์ตี้วันลาออก’ ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทวงคืนอิสระ และความสุขในชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางค่านิยมสังคมและครอบครัวที่คาดหวังให้ลูกหลาน “จงทำงานให้หนัก” เพื่อความสำเร็จในชีวิต

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS