ในประเทศจีนมีวัฒนธรรมย่อมๆ ของหนุ่มสาว ที่จัด ‘ปาร์ตี้วันลาออก’ ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทวงคืนอิสระ และความสุขในชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางค่านิยมสังคมและครอบครัวที่คาดหวังให้ลูกหลาน “จงทำงานให้หนัก” เพื่อความสำเร็จในชีวิต

สุขสันต์วันลาออก! เมื่อหนุ่มสาวชาวจีนหันมาจัดปาร์ตี้ฉลองวันลาออก เพื่อคืนความสุขให้กับตัวเอง และเลิกบูชาค่านิยมการทำงานหนักจนใจพัง

แม้ว่าการลาออกจากงาน จะเป็นเรื่องที่ใช่ว่าทุกคนจะตัดสินใจกันได้อย่างง่ายดาย ในยุคที่เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยจะดีนัก และต้องคำนึงถึงข้อจำกัดหลายๆ อย่าง รวมถึงความพร้อมของตัวเองอย่างถี่ถ้วน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลาออกจากงานที่เจ้าตัวมองว่า ‘ไม่ใช่’ สำหรับบางคนแล้วนั้น ก็เปรียบเสมือนการให้รางวัลกับตัวเอง ในวันที่ไม่อาจทนกับความรู้สึกไม่ใช่นี้ต่อไปได้ เพราะอาจทำให้บางคนรู้สึกท็อกซิก หรือส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ ซึ่งในประเทศ<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">จีน</a>เอง ถึงกับมีวัฒนธรรมย่อมๆ ของหนุ่มสาว ที่จัด ‘ปาร์ตี้วันลาออก’&nbsp;ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทวงคืนอิสระ และความสุขในชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางค่านิยมสังคมและครอบครัวที่คาดหวังให้ลูกหลาน “จงทำงานให้หนัก” เพื่อความสำเร็จในชีวิตแน่นอนว่านิยามความสำเร็จของแต่ละคนนั้นต่างกัน การได้ทำงานดีๆ และมีความมั่นคงนั้นย่อมเป็นผลดี แต่หากต้องแลกมากับการไม่มีความสุขในชีวิต สำหรับบางคนก็รู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะเสี่ยง เช่นเดียวกับ Haiyao (นามสมมติ) หญิงสาวชาวจีนวัย 22 ปี ผู้เคยทำงานอยู่ในแผนก dealership's marketing แบรนด์ Mercedes ในเมืองจินหัว ที่ดูแล้วสิ่งที่เธอทำอยู่จะเป็นบริษัทที่ดูมั่นคงระดับหนึ่ง แต่เธอก็ตัดสินใจลาออกออกมา พร้อมทั้งชวนเพื่อนๆ ของเธอไปฉลองการตัดสินใจลาออกครั้งนี้ ในปาร์ตี้มีป้ายแบนเนอร์สีแดงอันใหญ่ที่เขียนไว้ว่า “หญิงสาวผู้น่ารักคนนี้ ไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่อีกแล้ว! โอบกอดการลาออกครั้งนี้ไว้ อนาคตจะต้องดียิ่งขึ้น”&nbsp;ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ยังมีประชากรจีนอีกมากที่ตั้งคำถามต่อ ‘การทำงานหนักมากเกินไป’ และลาออกมา จัดงานฉลองวันลาออก ซึ่งร้านอาหารชื่อดังที่ขึ้นชื่อด้านการบริการอย่าง Haidilao ถึงกับมีการร้องเพลง ‘สุขสันต์วันลาออก’ ให้กับลูกค้าเหมือนกับที่ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดในวันเกิดของลูกค้าด้วย<img src="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xCJW62ha9cp1V2bNyFAzkKp1V258Ye9vA1.jpg" data-id="101536" data-url="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xCJW62ha9cp1V2bNyFAzkKp1V258Ye9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หรืออีกเคสหนึ่ง นั่นคือชายคนจีนที่ชื่อว่า Liang วัย 27 ปี ผู้ลาออกจากงานธนาคารในมณฑลเจ้อเจียงที่ดูมั่นคง มาเปิดคาเฟ่ที่เมืองไท่โจวที่รายล้อมไปด้วยภูเขาแทน ซึ่งเขาก็ได้จัดงานปาร์ตี้ และเชิญเพื่อนๆ มาร่วมยินดีกับการลาออกครั้งนี้ ที่เล่นใหญ่ชนิดที่ว่ามีการตีฆ้องและกลองในงานด้วย! โดยเพื่อนของเขาที่ก็ลาออกมาเหมือนกัน ได้นำเข็มกลัดดอกไม้ที่มีแบนเนอร์ข้อความติดไว้มาติดบริเวณอกของ Liang ซึ่งข้อความนั้นคือ “พวกเราจบสิ้นกับงานห่าเหวนี้แล้ว!” แถมรอบๆ พวกงานปาร์ตี้ยังมีแบนเนอร์เขียนไว้ว่า “ความสุขยกกำลังสอง” อีกด้วย<img src="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xFts1a2hcloXgYQ03259joBTIhoe9vA1.jpg" data-id="101536" data-url="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xFts1a2hcloXgYQ03259joBTIhoe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">“ผมเคยตกอยู่ในสภาวะการเป็นเครื่องจักร ทำงานซ้ำๆ ไปมา มันดูดกินพลังงานของผมไปมากครับ” Liang กล่าวกับ CNN และย้ำว่าความคิดหรือไอเดียก้าวล้ำของเขาก็จะไม่ถูกรับฟัง และหายไปในที่สุด พูดง่ายๆ ว่าเขาเหมือนคนที่รับคำสั่งมา และทำตามอยู่อย่างนั้น จนสูญเสียความเป็นตัวเองไป ซึ่งในอนาคตเขาก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำงานที่คาเฟ่ไปอีกนานแค่ไหน และบอกว่า ไม่แน่อาจจะต้องกลับไปทำงานที่ไม่มีความสุขอีกก็ได้ด้าน Nancy Qian ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จาก Northwestern University’s Kellogg School of Management ได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ไว้ว่า “ฉันคิดว่าผู้คนในโลกตะวันตก หรือนอกประเทศจีน อาจจะไม่เข้าใจว่าการเป็นเด็กที่นี่มันยากขนาดไหน หนุ่มสาวที่นี่กำลังเผชิญกับความผิดหวังมากมาย มีความเหนื่อยล้าที่เก็บกดไว้ และความขมขื่นใจจากการที่ต้องทำงานหนักมากๆ นี้”ซึ่งเธอก็มองว่า “มันอาจจะขัดกับความดีงาม และการบูชางาน ที่พวกเขาได้รับการสั่งสอนมาทั้งชีวิตก็จริง แต่ตอนนี้พวกเขาเบิร์นเอาต์หมดแล้วค่ะ”<img src="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xHt1Ws1a2hbnMs1a2hAA6GSTaRAE6e0e9vA1.jpg" data-id="101536" data-url="https://media.thairath.co.th/image/zQ6lVRMQLQup1V2jwInD0g8xHt1Ws1a2hbnMs1a2hAA6GSTaRAE6e0e9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">การถูกกดดันจากครอบครัว ที่หวังอยากให้ลูกประสบความสำเร็จมากจนเกินไป และการบูชางานหนัก จนปัดความท็อกซิกในที่ทำงานออกไป แน่นอนว่าไม่มีทางจะส่งผลดีต่อใครได้เลย ซึ่งเราเชื่อว่า จริงๆ ไม่ได้มีแค่คนในประเทศจีนหรอก ที่ยังรู้สึกว่าต้องวิ่งไล่ตามความสำเร็จตามความคาดหวังของใคร หรือมีความรู้สึกกดดันตัวเองอยู่ แต่สุดท้าย เราก็อยากให้ทุกคนอย่าลืมเคารพตัวเอง และมอบความสุขให้ตัวเองบ้าง ซึ่งการลาออกจากที่ทำงานเก่า เพื่อเดินไปยังเส้นทางใหม่ มันอาจจะมีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นในภายภาคหน้าก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ไม่ต้องจมอยู่กับที่เดิมที่ทำให้ไม่มีความสุขอีกแล้วส่วนใครอยากจัดปาร์ตี้วันลาออกกันบ้าง แชร์ให้พวกเราฟังได้นะอ้างอิง:<a href="https://edition.cnn.com/2023/10/05/economy/china-youth-resignation-parties-intl-hnk/index.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://edition.cnn.com/2023/10/05/economy/china-youth-resignation-parties-intl-hnk/index.html</a><a href="https://www.lemonde.fr/en/m-le-mag/article/2023/08/28/chinese-youth-are-rethinking-their-relationship-to-work_6111685_117.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.lemonde.fr/en/m-le-mag/article/2023/08/28/chinese-youth-are-rethinking-their-relationship-to-work_6111685_117.html</a>

การคุกคามทางเพศในที่ทำงานยังคงเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร อย่างเช่น กรณีหน่วยงานด้านสาธารณสุข ในอังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีรายงานออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่ทำงานด้านการดูแลผู้ป่วย ถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีใครกล้าปริปากพูด ด้วยความกลัวว่าจะเสียวีซ่าทำงาน และสุดท้ายจะทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบาก เพราะเป็นเพียงแรงงานชาวต่างชาติ

แรงงานต่างชาติในอังกฤษจำนวนมาก ถูกนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศ แต่หลายคนกลับไม่สามารถร้องเรียน เพราะกลัวถูกเพิกถอนวีซ่า

นักศึกษาหญิง ปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงมือปาดคอและแทงแฟนหนุ่มนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยมีดปอกผลไม้บริเวณหอพัก จนบาดเจ็บสาหัส โดยทำไปเพราะโดนบอกเลิก และจับได้ว่าแฟนนอกใจ

จะโดนบอกเลิก หรือโดนนอกใจ ก็ไม่ได้แปลว่ามีสิทธิ์ฆ่าหรือทำร้ายคนรัก กรณี นักศึกษาหญิงใช้มีดปาดคอแฟนหนุ่ม
จนบาดเจ็บสาหัสบริเวณหอพัก

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ในช่วงต้นปี 2567 พบว่า สายตาที่ประชาชนหลายคนมองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับยังมีความ ‘ไม่ไว้ใจ’ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่มาก

ผลสำรวจปี 67 พบว่า คนไทยหวาดกลัวต่ออาชญากรรมค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อมั่นใน ‘ตำรวจ’ ทั้งยังคาดหวังให้ตำรวจตรวจสอบได้ ทำงานเร็ว และไม่เลือกปฏิบัติ ฯลฯ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Thoughts

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS