นักแสดงสาว ลิลี่ ไรน์ฮาร์ต (Lili Reinhart) วัย 27 ผู้แจ้งเกิดจากซีรีส์สุดฮิต Riverdale (2017-2023) ได้โพสต์คลิปบอกเล่าถึงสถานการณ์ของตัวเธอเองหลังจากต้องเผชิญกับโรค Alopecia หรือโรคที่ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมจนต้องใช้วิธีรักษาด้วยเครื่อง Red Light พร้อมๆ กับเปิดเผยว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา สุขภาพจิตของเธอเองก็ดิ่งลงเหวจากโรคซึมเศร้า และทำให้เธอต้องรับมือกับทั้งอาการป่วยทางร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วงไม่น้อยไปกว่ากัน 

Lili Reinhart เปิดใจล่าสุดถึงการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิต

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นักแสดงสาว ลิลี่ ไรน์ฮาร์ต (Lili Reinhart) วัย 27 ผู้แจ้งเกิดจากซีรีส์สุดฮิต Riverdale (2017-2023) ได้โพสต์คลิปบอกเล่าถึงสถานการณ์ของตัวเธอเองหลังจากต้องเผชิญกับโรค Alopecia หรือโรคที่ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมจนต้องใช้วิธีรักษาด้วยเครื่อง Red Light พร้อมๆ กับเปิดเผยว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา สุขภาพจิตของเธอเองก็ดิ่งลงเหวจากโรคซึมเศร้า และทำให้เธอต้องรับมือกับทั้งอาการป่วยทางร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วงไม่น้อยไปกว่ากัน&nbsp;ก่อนหน้านี้ นักแสดงสาวเคยเปิดเผยถึงภาวะซึมเศร้าของตัวเองมาแล้วผ่านบทสัมภาษณ์บนเว็บไซต์ Refinery ในปี 2020 เล่าถึงช่วงเวลาก่อนจะมีชื่อเสียงเช่นทุกวันนี้ ไรน์ฮาร์ตก็เหมือนกับเด็กสาวธรรมดาๆ ที่มีความฝันอยากเป็นนักแสดง เธอย้ายจากเมืองคลีฟแลนด์ โอไฮโอ ย้ายมายังลอสแอนเจลิส เพื่อวิ่งเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงอาชีพด้วยวัยเพียง 16 ซึ่งขณะนั้นเธอเองก็มีงานแสดงบ้างประปรายกับบทเล็กๆ ในหนังอินดี้ 2-3 เรื่อง อย่าง Not Waving But Drowning (2012), Kings of Summer (2013) และ Miss Stevens (2016) แต่นั่นก็ยังไม่ได้มากพอที่ทำให้ชื่อของไรน์ฮาร์ตเป็นที่รู้จักมากนัก ช่วงเวลาแห่งการดิ้นรนในแวดวงการแสดงน้ันเองที่ทำให้เธอต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล พร้อมกับความเครียดจากการวิ่งแคสต์งาน และถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคิดถอดใจจากเส้นทางนี้อยู่บ่อยครั้ง“ช่วงนั้นมันหดหู่มาก ฉันวิตกกังวลหนักถึงขั้นอาเจียนทุกคืนเลยค่ะ” ลิลี่ ไรน์ฮาร์ต เล่าถึงช่วงเวลาวัยรุ่นที่เธอเพิ่งย้ายมาอยู่แอลเอ “บางครั้งเรามองความสำเร็จของบางคนแล้วคิดว่าทำไมเขาถึงได้อะไรมาง่ายจัง แต่สำหรับฉันไม่ใช่เลย ตั้งแต่ช่วง 12-19 เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก ฉันทั้งถังแตก ทั้งสุขภาพจิตพัง”&nbsp;ด้วยความพยายามของเธอ ในที่สุดไรน์ฮาร์ตก็ได้รับบทนำในซีรีส์ Riverdale ขณะที่เธออายุ 19 ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นงานที่แจ้งเกิดชื่อเธอเพียงชั่วข้ามคืน แต่ความฮิตของซีรีส์และชื่อเสียงก็ไม่ได้ทำให้ปัญหาสุขภาพจิตของเธอหายไป สัญญาจ้างที่ผูกมัดและการถ่ายทำซีรีส์ถึง 7 ซีซั่น ที่กินเวลายาวนานหลายปีในชีวิตกลับทำให้สุขภาพจิตของไรน์ฮาร์ตแย่ลงกว่าเดิม ไรน์ฮาร์ตบอกว่าช่วงเวลาแห่งภาวะซึมเศร้านั้นเหมือนกับ ‘อุโมงค์ดำมืดที่ไม่มีปลายทาง’&nbsp;“ฉันมองไม่เห็นแสงอะไรเลย รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย มันโหดมากๆ แล้วมันก็ไม่มีทางไหนเลยนอกจากเผชิญหน้ากับมัน” ไรน์ฮาร์ต เล่าถึงช่วงเวลายากลำบากกับเว็บไซต์ Refinery เมื่อปี 2020“ฉันเห็นหลายคนเวลามีปัญหา มีเรื่องปวดใจ หรือเศร้า พวกเขาพยายามที่จะเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่าด้วยอะไรสักอย่าง ด้วยการมีเซ็กซ์ เล่นโค้ก หรือด้วยการกินดื่ม แต่ความว่างเปล่านั้นก็ยังอยู่ ส่วนฉันเเทบจะไม่ไปไหนเลย นอกจากพยายามดีลกับไอ้ความรู้สึกแย่ทั้งหมดนั่น เพราะฉันเลือกที่จะปะทะกับมันด้วยตัวฉันเอง”จนถึงทุกวันนี้ การต่อสู้กับโรคซึมเศร้าที่กัดกินชีวิตมายาวนานของนักแสดงสาวก็ยังคงเป็นงานหนักที่ดูเหมือนจะไม่มีวันจบลง แต่อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เธอได้เข้าใจอะไรหลายอย่าง ทั้งการมีอยู่ของภาวะซึมเศร้า การหาทางเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้ดีอย่างสันติสุข และสุดท้ายมันก็ทำให้เธอรู้จักคุณค่าในตัวเองมากขึ้นกว่าครั้งไหนๆ เมื่อเธอเปิดใจในบทสัมภาษณ์ล่าสุดกับเว็บไซต์ The Cut ถึงการค้นพบของตัวเธอเองในเรื่องสุขภาพจิต“ฉันพยายามที่จะทำสมาธิให้ได้ทุกวัน นี่คือเป้าหมายของตอนนี้” ไรน์ฮาร์ต กล่าว ยอมรับว่าเรื่องสุขภาพจิตคือเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเธอในเวลานี้ และโรคซึมเศร้าที่เธอเคยรู้จักก็ได้เปลี่ยนหน้าตาไปในแต่ละเฟส ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตเธอ “สัญญาณที่บอกว่าฉันเป็นซึมเศร้า มันไม่เหมือนกันเลย อย่างตอนนี้ฉันอายุ 27 ก็จะต่างกับตอนที่ฉันอายุ 20 เพราะว่าตอนนั้นที่ฉันเจอภาวะเหล่านี้ เหมือนมีความพยายามที่จะหาทางออกกับมันอยู่เรื่อยๆ ฉันไม่ใช่คนที่อยู่เฉยอยู่แล้วเวลาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพจิต”&nbsp;“แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าโรคซึมเศร้าไม่ได้มีทางรักษาที่ตายตัวขนาดนั้น ฉันเลยไม่ได้มองหาทางรักษา สิ่งท่ีฉันมองหาคืออะไรก็ตามที่จะช่วยให้ฉันเจอกับความสุขสงบได้ก็พอแล้วค่ะ”อ้างอิง<a href="https://www.thecut.com/article/lili-reinhart-isabela-merced-in-conversation.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thecut.com/article/lili-reinhart-isabela-merced-in-conversation.html</a><a href="https://www.refinery29.com/en-us/2020/08/9941749/lili-reinhart-chemical-hearts-swimming-lessons-real-breakup-pain" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.refinery29.com/en-us/2020/08/9941749/lili-reinhart-chemical-hearts-swimming-lessons-real-breakup-pain</a>

‘การกรีดร้องบำบัด’ ก็อาจเรียกได้ว่าเป็น Therapeutic Emotional Release หรือการเยียวยาเพื่อปลดปล่อยทางอารมณ์วิธีหนึ่งเหมือนกัน

‘Screaming Therapy’ การกรีดร้องบำบัดที่ ตัวช่วยลดความเครียดแบบไวๆ ที่ทำง่ายและทำได้ทันที

การที่นักกีฬาทีมชาติสักคนจะตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันใหญ่ที่สุดอย่างโอลิมปิก ด้วยเหตุผลเพราะ "จิตใจไม่ไหว" อาจเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้นในยุคหนึ่ง แต่หลังการตัดสินใจครั้งใหญ่ของ ซิโมน ไบลส์ (Simone Biles) อะไรๆ อาจเปลี่ยนไป

Simone Biles นักกีฬาที่ทำให้โลกเห็นว่า เรื่องสุขภาพจิตก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้สุขภาพกาย การคุกคามทางเพศในวงการกีฬาก็เช่นกัน

ทุกวันนี้ความสัมพันธ์แบบ Polyamory เป็นที่พูดถึงและได้รับการยอมรับมากกว่าแต่ก่อน หลายๆ คู่ (หรือคี่) ที่คบกันในรูปแบบนี้ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้สังคมได้รู้เห็น และทำความเข้าใจกับเรื่องนี้มากขึ้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Mind

Lili Reinhart เปิดใจล่าสุดถึงการรับมือกับปัญหาสุขภาพจิต

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS