Free Use คือวิถีเซ็กซ์ที่มีเส้นบางๆ ระหว่างรสนิยมกับการคุกคามทางเพศ ซึ่งอาจทำให้ต้องกลับไปทบทวนคำว่า ‘Consent’ กันใหม่อีกครั้ง

Free Use การตกลงใจว่าพร้อมรองรับเซ็กซ์ไม่ว่าตอนไหนหรืออย่างไรก็ได้ ซึ่งอาจเสี่ยงอันตราย หากอีกฝ่ายล้ำเส้นหรือไม่ยอมหยุดเมื่อคุณอยากเลิกเล่น

Free Use คือวิถีเซ็กซ์ที่มีเส้นบางๆ ระหว่างรสนิยมกับการคุกคามทางเพศ ซึ่งอาจทำให้ต้องกลับไปทบทวนคำว่า ‘Consent’ กันใหม่อีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ คำว่า Free Use ถูกพูดถึงอย่างมากในโซเชียลฯ คำนี้หมายถึงอีกหนึ่งหมวดหมู่ของ Fetish หรือความคลั่งไคล้ทางเพศอย่างหนึ่งที่หมายถึงคนสองคน (หรืออาจจะมากกว่านั้น) อนุญาตให้ตัวเอง ‘ใช้’ (Use) และ ‘ถูกใช้’ (Used) ตอบสนองความต้องการทางเพศได้ตลอดเวลา ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว Free Use คือวิถีเซ็กซ์ที่ต่างฝ่ายต่างทำการตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วภายใต้ Consent ที่อนุญาตให้อีกฝ่ายหนึ่งสามารถ ‘รุก’ เมื่อไรก็ได้ แบบไหนก็ได้ โดยไม่ต้องถามไถ่ ไม่ต้องบอกกล่าวกันก่อน และอีกฝ่ายต้องพร้อมเป็นฝ่าย ‘รับ’ ได้ทุกเมื่อ ทุกเมื่อจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่อาจกำลังยุ่งอยู่ กำลังนั่งทำงาน ทำกับข้าว ซักผ้า กินกาแฟ หรือแม้แต่กำลังนอนหลับก็ตาม เป้าหมายของเซ็กซ์แบบ Free Use คือการปลดเปลื้องกฎเกณฑ์ของการมีเซ็กซ์ปกติทั่วไป สู่การแค่ตอบสนองทางอารมณ์และร่างกาย โดยไม่ต้องอาศัยการคิด การควบคุม หรือการตัดสินใจภายใต้เหตุและผลใดๆ อาจเรียกว่า Free Use เป็นอีกหนึ่ง Sub-genre ในบรรดารสนิยมทางเพศเฉพาะกลุ่มที่แตกแยกย่อยออกไปอีก และเป็น Fantasy Sex ในอีกรูปแบบหนึ่งได้เหมือนกัน&nbsp;จริงอยู่ว่าการ Normalize รสนิยมทางเพศที่แตกต่างหลากหลายด้วยความเข้าใจเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจไม่ได้หมายความว่า Free Use ที่ตอนนี้แพร่หลายออกมาจากแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่มอย่างเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่หรือเว็บบอร์ด 18+ และมีให้เห็นอยู่เต็มโลกอินเทอร์เน็ตไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ใน TikTok ที่คนทุกวัยเข้าถึงได้ง่าย จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องจริงๆ เพราะผลร้ายที่ตามมาจากความไม่เข้าใจอาจไม่โอเคเอาเสียเลยบางคนตั้งข้อสงสัยว่า หรือ Free Use คือการ ‘Yassification of Rape’ หรือการทำให้การข่มขืนดูเป็นเรื่องชอบธรรมหรือไม่&nbsp;อย่างเคสหนึ่งที่บอกเล่าประสบการณ์เซ็กซ์แบบ Fee Use ของเธอผ่านเว็บไซต์ Reddit ที่มีคอมมิวนิตี้พูดคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะว่า เธอตกลงและอนุญาตให้แฟนหนุ่ม รวมถึงเพื่อนๆ ของเขามีคืน ‘Free Use Night’ กับเธอได้ แต่พอคืนนั้นทุกอย่างดำเนินไป เธอรู้สึกว่าทุกอย่างมันเริ่มรุนแรงขึ้น เพราะเธอทั้งถูกตบหน้า ถูกบีบคอ และถูกกระทำความรุนแรงต่างๆ จนเธอร้องขอว่าให้หยุด แต่พวกเขากลับยังคงบังคับให้เธอมีเซ็กซ์ต่อไป นั่นทำให้เธอรู้สึกแย่มาก พร้อมรู้สึกโทษตัวเอง เนื่องจากพวกเขาอ้างว่าเธอได้อนุญาตในการ Free Use ครั้งนี้แล้ว นั่นหมายความว่าจะทำอะไรกับเธอก็ได้ทั้งหมด จนเธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าแบบนี้เรียกว่าถูกข่มขืนหรือไม่ซึ่งความเห็นของหลายคนที่เข้ามาตอบต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ใช่ คุณถูกข่มขืน’ แถมหลายคนยังแนะนำถึงขั้นให้เธอลาขาดแฟนหนุ่มคนนี้ไปเลย เพราะสิ่งที่เขาและเพื่อนๆ ทำนั้นเป็นการ ‘ล้ำเส้น’ เธออย่างให้อภัยไม่ได้ และเขาไม่เข้าใจว่า Free Use เป็นเรื่องของ ‘Sex with Consent’ เมื่อใดก็ตามที่อีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่โอเค ไม่ยินยอมให้เซ็กซ์ดำเนินต่อไปแล้ว และขอให้หยุด แต่อีกฝ่ายยังคงทำ นั่นคือการล่วงละเมิดทางเพศทันที&nbsp;ถึงแม้ว่าหัวใจหลักของเซ็กซ์แบบ Fee Use คือการแสดงความต้องการและการตอบสนองความต้องการนั้นทันทีก็จริง แต่การอนุญาตให้อีกฝ่าย Free use กับเราได้ในแบบหนึ่ง หรือครั้งหนึ่ง ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องโอเคกับ Free Use ทุกแบบ ทุกครั้งเสมอไป และทุกครั้ง ทุกฝ่าย มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหากรู้สึกว่าเซ็กซ์แบบนั้นไม่โอเคกับตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นเรื่องของ ‘Safe Words’ ที่ทุกฝ่ายควรต้องตกลงร่วมกัน และ ‘เคารพ’ กันก่อนว่าจุดไหนโอเค ไม่โอเค แค่ไหนไม่ไหวและควรหยุดผู้ใช้ TikTok สาวรายหนึ่งบอกว่า Free Use สำหรับเธอหมายถึงการที่เธอต้อง ‘Say yes ยอมให้สามีมีอะไรด้วยทุกครั้งไป ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอารมณ์หรือไม่ อยากหรือไม่อยากก็แล้วแต่ เพื่อจะได้ไม่ลงเอยด้วยการเลิกกัน’ นั่นจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมองว่าระหว่าง Free Use กับการคุกคามทางเพศมีแค่เส้นบางๆ คั่นอยู่ และหากสิ่งที่เธอพูดเป็นเรื่องจริง ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดรายงานตัวเลขของภรรยาที่ถูกสามีตัวเองข่มขืนนั้นจึงเพิ่มมากขึ้นทุกที&nbsp;จริงอยู่ว่าเราไม่อาจเหมารวม Free Use ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายไปเสียทั้งหมด เพราะสำหรับบางคนบางคู่ Free Use คือแฟนตาซีที่ช่วยให้ความสัมพันธ์มีสีสัน มีรสชาติ และเป็นเรื่องของรสนิยมที่ไม่มีถูกผิด หากไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เช่นเดียวกับ BDSM รวมถึง Fetish อื่นๆ ที่มีอยู่บนโลกนี้ แต่ตราบใดที่เซ็กซ์เป็นกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกับคนอื่น Consent จึงเป็นเรื่องต้องทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรก ไม่อย่างนั้น Free Use ก็อาจเป็นการล่วงละเมิดและคุกคาม ที่สร้างความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจให้กับทุกฝ่ายได้ &nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.vice.com/en/article/y3wn3x/whats-the-free-use-fetish-and-whys-everyone-talking-about-it" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vice.com/en/article/y3wn3x/whats-the-free-use-fetish-and-whys-everyone-talking-about-it</a>&nbsp;

ชาวออสเตรเลียหลายคนต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการป้องกัน และปรับเปลี่ยนกฎหมายให้แข็งแรงขึ้น เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ในออสเตรเลียมีผู้หญิงที่เสียชีวิตจากความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศเฉลี่ยอยู่ที่ 4 คนต่อวัน

ชาวออสเตรเลียหลายพันคนรวมตัวประท้วงให้ ‘ความรุนแรงต่อผู้หญิง’ เป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติหลังจากปีนี้ มีผู้หญิงถูกฆ่าในทุกๆ 4 วัน

‘PANK’ หรือ ‘Professional Aunt, No Kids’ ผู้หญิงที่มีสถานะการเงินคล่องตัว ดูแลตัวเองได้ ไม่ได้มองว่าจุดสูงสุดของชีวิตคือการแต่งงานมีลูก เพียงแค่อยากเป็นคุณน้ามืออาชีพ คอยดูแลหลานๆ ที่เธอรัก

การเพิ่มขึ้นของ PANK : Professional Aunt, No Kids น้าสาวสุดคูล ดูแลตัวเองได้ สายเปย์ ชอบเลี้ยงหลาน แต่ไม่ได้อยากแต่งงานหรือมีลูก

กิจกรรมเสวนา Talk to PEACH ‘เรื่องเพศ พูดได้’ ที่ว่าด้วยเรื่องของสุขภาวะทางเพศของผู้หญิง ณ ชั้น 4 สยามพารากอน ซึ่งจัดโดยแพลตฟอร์ม Talk to PEACH แอปพลิเคชันให้คำปรึกษาเรื่องเพศและสุขภาวะทางเพศแบบออนไลน์

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Sex

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS