ปีที่ 12 กับโครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” ที่วาโก้รับบริจาคบราเก่าของคนทุกเพศมากำจัดอย่างถูกวิธีแบบ zero waste โดยช่วยกำจัดบราเสื่อมสภาพไปแล้วจำนวน 720,664 ตัว 

12 ปี โครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” รับบริจาคบรา-ชุดชั้นในเก่าทุกแบรนด์ เพื่อกำจัดถูกวิธี แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง

แม้ <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/WacoalThailand" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘วาโก้’ (Wacoal)&nbsp;</a>จะอยู่คู่ทุกคน ทุกวัย ทุกไซซ์ ทุกคัพ มาอย่างยาวนาน แต่เรื่องที่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ (และเราอยากให้รู้) คือนอกจากวาโก้จะเป็นมิตรต่อน้องนมของทุกคนด้วยโปรดักต์ที่ปลอดสารพิษแล้ว วาโก้ยังเป็นมิตรต่อ ‘สิ่งแวดล้อม’ เพราะมีกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งยังมีโครงการ <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/WacoalBraday%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD" rel="noopener noreferrer" target="_blank">“วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ”</a>&nbsp;กับขวบปีที่ 12 ที่วาโก้รับบริจาคบราเก่าของคนทุกเพศมากำจัดอย่างถูกวิธีแบบ zero waste โดยช่วยกำจัดบราเสื่อมสภาพไปแล้วจำนวน 720,664 ตัว เบื้องหลังของวาโก้นั้นเต็มไปด้วยความตั้งใจ ที่จะสร้างแบรนด์ให้ทั้งใส่ดี และต้องดีกับชุมชน สิ่งแวดล้อม รวมถึงโลกใบนี้ ก่อนอื่นเราจึงอยากมาเล่าความตั้งใจนี้ของวาโก้ให้อ่านกันสักหน่อย วาโก้ก่อตั้งธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2513 เท่ากับว่าตอนนี้วาโก้มีอายุครบ 52 ปีเต็ม โดยวาโก้ได้ยึดหลักการทำธุรกิจภายใต้ระบบ ‘WACOAL ECO SYSTEM’ จนกลายเป็นแบรนด์แรกในกลุ่มธุรกิจสิ่งทอ ที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว (Green Label) จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ที่มุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตตามแนวทาง “BCG Model” ได้แก่ 1. BIOECONOMY เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติที่หมุนเวียนหรือย่อยสลายได้ เช่น ยางพารา ฝ้าย เยื่อไผ่ และใช้เต้าโมลที่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม 2. CIRCULAR ECONOMY เลือกใช้วัสดุหมุนเวียนจากของเสียในกระบวนการผลิต (Pre-Consumer) วัสดุที่ถูกทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม (Post-Consumer) เช่น แห-อวนในท้องทะเล รวมถึง Recycle Material 3. GREEN ECONOMY สร้างกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาตรฐานทั้ง Green Label / Green Industry (GI.4) / Eco Factory เป็นต้น ไม่เพียงเท่านี้ วาโก้ยังผ่านการประเมิน Carbon Footprint Product ตั้งแต่ปี 2554 เพราะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขานั้นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง ที่สำคัญวาโก้ยังเน้นย้ำเรื่องการทิ้งชุดชั้นในแบบที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม จนเกิดเป็นโครงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” ขึ้นในปี 2555 เพราะจากสถิติพบว่า ผู้หญิงไทยซื้อบราใหม่ ปีละ 5-12 ตัว/ปี ทิ้งบราเก่า 2 ตัว/ปี (น้ำหนักเฉลี่ย 100 กรัม/ตัว) และทำให้ขยะจากชุดชั้นในเพิ่มขึ้น 5,870 ตัน/ปี ซึ่งหากกำจัดชุดชั้นในของเราอย่างผิดวิธี โยนเข้ากองขยะไปเลยเปล่าๆ โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รู้ไหมว่าบรา 1 ตัวที่เราโยนทิ้งไป มันใช้เวลาย่อยสลายกว่า 400 ปี เลยนะ หรือบางคนอาจคิดว่าการนำบราไปเผาในที่โล่งอาจจะเวิร์ก แต่จริงๆ การเผาแบบผิดวิธีก็สร้างมลพิษและฝุ่น PM 2.5 ให้กับประเทศเราได้ (ยิ่งช่วงนี้ฝุ่นยิ่งเยอะๆ อยู่) “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” จึงเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาสู่ความยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ที่ปลูกฝังการบริโภคอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากรทางบก แล้วของโครงการนี้ของวาโก้ เขาทำอะไรบ้าง ให้ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม? หลัก 3R คือคำตอบ 1. ReUSE วาโก้บริจาคชุดชั้นในใหม่สภาพดี &nbsp;ให้แก่ทัณฑสถานหญิงทั่วประเทศ และผู้หญิงยากไร้อย่างต่อเนื่อง 2. ReDUCE &nbsp;วาโก้รับบริจาคบราเสื่อมสภาพ โดยร่วมกับ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เพื่อนำชุดชั้นในเหล่านั้นมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ทดแทนการใช้ถ่านหินในการผลิตกระแสไฟฟ้าในระบบปิด ซึ่งสามารถนำไปใช้ต่อในอุตสาหกรรม และขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ รวมถึงยังลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ หรือพลังงานจากฟอสซิลต่างๆ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของ Climate Change และภาวะโลกร้อน 3. ReCYCLE &nbsp;วาโก้จะนำบราเก่าและส่วนประกอบของชุดชั้นในมาตัดเย็บ และสร้างรูปทรงใหม่ เพื่อเป็นงานแฟชั่นและงานศิลปะ ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าการรีไซเคิลจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับขยะได้อีกมาก ตั้งแต่ปี 2555-2565 วาโก้สามารถกำจัดบราเสื่อมสภาพไปแล้วเป็นน้ำหนัก 72,066 กิโลกรัม หรือลดขยะชุมชนไปได้กว่า 72 ตัน ทดแทนการใช้พลังงานถ่านหินได้กว่า 402 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึงกว่า 39,036 ต้น ตัวเลขดังกล่าวเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย และสะท้อนให้เห็นว่าสิ่งที่วาโก้ตั้งใจนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จริง และช่วยสิ่งแวดล้อมได้จริงเช่นกัน วาโก้จึงเป็นแบรนด์ที่มีทำอะไรมากกว่าขายชุดชั้นใน เพราะสามารถพูดได้ว่าเป็น ‘Green Product’ ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกวัฎจักรของชุดชั้นใน ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ (Eco Material &amp; Green Procurement) การผลิต (Eco Process) การขนส่งและการจัดจำหน่ายที่สะดวกรวดเร็ว (Eco Distribution) การใช้งานที่มีส่วนช่วยประหยัดทรัพยากร (Eco Care) และเมื่อเลิกใช้ยังรับคืนเพื่อกำจัดโดยไม่ก่อมลพิษผ่านโคงการ “วาโก้บราเดย์ บราเก่าเราขอ” อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับวาโก้ในการดูแลสิ่งแวดล้อม สามารถบริจาคบราและชุดชั้นในเก่าทั้งหญิง-ชายกับวาโก้ได้ที่ วาโก้ช็อป และเคาน์เตอร์วาโก้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทางไปรษณีย์ ส่งถึงฝ่าย CSR บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) เลขที่ 132 ซ.เจริญราษฎร์ 7 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 ทิ้งบราเก่าให้ถูกที่เพื่อโลกของเรากันเถอะ

ใหม่ล่าสุด มิสทิน เปิดตัวแป้งผสมรองพื้น “MISTINE THIS IS ME” พร้อมพรีเซนเตอร์ คนใหม่!!! เบลอรูขุมขน ปกปิด แต่บางเบา  บล็อคความมันได้ยาวนานกว่า 18 ชั่วโมง  

มิสทิน เปิดตัวแป้งผสมรองพื้น “MISTINE THIS IS ME” พร้อมพรีเซนเตอร์ คนใหม่ เบลอรูขุมขน ปกปิด แต่บางเบา  บล็อคความมันได้ยาวนานกว่า 18 ชั่วโมง

จางดาอา หรือ แบคฮาริน จากซีรีส์ Pyramid Game ที่เธอแสดงได้ดีมากๆ สำหรับการเดบิวต์เป็นนักแสดงเต็มตัวเรื่องแรก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็จถูกพูดถึงโดยมียศพ่วงท้ายหลังชื่อว่า “พี่สาวของวอนยอง” อยู่เสมอ 

จางดาอา นักแสดงผู้มีแพสชันในการแสดงมาตั้งแต่เด็ก และอยากถูกจดจำในฐานะนักแสดงมากกว่า “พี่สาวของวอนยอง” 

แคมเปญพิเศษอย่าง NIGAO x Smile Club ก็นับเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น และร้านทำผมที่มีคาแรกเตอร์และสไตล์ที่จัดจ้านอันดับต้นของไทย ในการนำเสนอสไตล์และภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของสีผมและแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Updates

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS